เจ้าของปั๊มน้ำมันโวยค่าการตลาดตกต่ำ วอนผู้ค้ามาตรา 7 ปรับค่าการตลาดให้เพิ่มขึ้น ด้านผู้ค้าน้ำมันชี้ขณะนี้ก็ขาดทุนอยู่แล้วคงช่วยอะไรไม่ได้ พร้อมแนะทางรอดปั๊มควรจำหน่ายแก๊สโซฮอล์-ไบโอดีเซล ให้เพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดบางจากจะเปิดปั๊มไบโอดีเซล 4 แห่ง ใน กทม. ลดราคาถูกกว่า 75 สตางค์/ลิตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสัมมนา "พัฒนาธุรกิจพลังงานไทย สู่มาตรฐานใหม่ พลังงานชาติ" ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันต่าง ๆ ได้ออกมาเรียกร้องให้ปรับส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันให้ปั๊มเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันได้ประมาณ 45-50 สตางค์ต่อลิตร แต่ปั๊มกลับมีรายได้ลดลง เพราะยอดขายต่อหน่วยลดลงเพราะผลพวงราคาที่สูงขึ้นประชาชนจึงใช้น้ำมันน้อยลง ขณะเดียวกันผู้ค้าน้ำมันต้องเตรียมวงเงินล่วงหน้าไปซื้อน้ำมันเพิ่มมากขึ้น โดยกำไรขณะนี้ลดลงเหลือประมาณร้อยละ 1 เท่านั้น
นายมนูญ ศิริวรรณ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ค่าการตลาดเฉลี่ยเหลือ 13 สตางค์ต่อลิตร แต่แบ่งให้ปั๊มน้ำมันในอัตราเดิมคือ 45-50 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งทางรอดแนวทางหนึ่งของปั๊มต่าง ๆ คือควรหันมาจำหน่ายพลังงานทดแทน ทั้งแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซล เพราะเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากราคาต่ำกว่าเบนซิน 95 ในอัตรา 1.50 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซลราคาดูกกว่าดีเซล 75 สตางค์ต่อลิตร โดยบางจากจะเปิดตัวปั๊มจำหน่ายไบโอดีเซล 5% (น้ำมันดีเซล 95% ผสมไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว 5%) จำนวน 4 แห่ง ใน กทม. ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้
"ขณะนี้การค้าน้ำมันเป็นระบบเสรี หากค่าการตลาดจะปรับขึ้นคงต้องให้ผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดของตลาดปรับส่วนแบ่งหรือปรับราคาน้ำมันเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่รอดแล้วรายอื่นจะได้ปรับเพิ่มตาม" นายมนูญ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าผู้ค้าน้ำมันไม่ควรออกมาประกาศวันขึ้นราคาน้ำมันล่วงหน้า นายมนูญ กล่าวว่า คงเป็นความเป็นห่วงของนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ต้องการให้เกิดการกักตุนน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้ค่าการตลาดในส่วนของเบนซินลดต่ำลงจนถึงขั้นขาดทุนเพราะควรจะได้ 1.50 บาทต่อลิตร แต่ขณะนี้ติดลบถึง 50 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะปรับราคาน้ำมันหรือไม่จะต้องดูราคาตลาดโลกใน 1-2 วันนี้ก่อน
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ระดับราคาน้ำมันตลาดโลกมีทิศทางปรับสูงขึ้น ในขณะที่ภาวะการค้าปลีกน้ำมันส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยดีนัก ผู้ค้าน้ำมันในประเทศมี 2 ส่วน ทั้งที่มีโรงกลั่นน้ำมันของตนเองและไม่มีโรงกลั่น รายใดที่มีโรงกลั่นอยู่ด้วยหากมีค่าการกลั่นที่พออยู่ได้ก็ควรจะผ่อนคลายค่าการตลาดให้กับผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันเพื่อช่วยเหลือในการลดต้นทุนและส่วนหนึ่งยังจะสามารถสะท้อนไปยังราคาที่จำหน่ายให้กับผู้บริโภคด้วย
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ. ปตท. กล่าวว่า ปตท. พยายามส่งเสริมการใช้เอ็นจีวีเพิ่มมากขึ้น และนโยบายกระทรวงพลังงานก็ให้มาแล้วว่าพร้อมส่งเสริมให้ผู้ค้านำมันรายอื่น ๆ หันมาสร้างปั๊มเอ็นจีวีเพื่อให้มีการก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสัมมนา "พัฒนาธุรกิจพลังงานไทย สู่มาตรฐานใหม่ พลังงานชาติ" ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันต่าง ๆ ได้ออกมาเรียกร้องให้ปรับส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันให้ปั๊มเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันได้ประมาณ 45-50 สตางค์ต่อลิตร แต่ปั๊มกลับมีรายได้ลดลง เพราะยอดขายต่อหน่วยลดลงเพราะผลพวงราคาที่สูงขึ้นประชาชนจึงใช้น้ำมันน้อยลง ขณะเดียวกันผู้ค้าน้ำมันต้องเตรียมวงเงินล่วงหน้าไปซื้อน้ำมันเพิ่มมากขึ้น โดยกำไรขณะนี้ลดลงเหลือประมาณร้อยละ 1 เท่านั้น
นายมนูญ ศิริวรรณ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ค่าการตลาดเฉลี่ยเหลือ 13 สตางค์ต่อลิตร แต่แบ่งให้ปั๊มน้ำมันในอัตราเดิมคือ 45-50 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งทางรอดแนวทางหนึ่งของปั๊มต่าง ๆ คือควรหันมาจำหน่ายพลังงานทดแทน ทั้งแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซล เพราะเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากราคาต่ำกว่าเบนซิน 95 ในอัตรา 1.50 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซลราคาดูกกว่าดีเซล 75 สตางค์ต่อลิตร โดยบางจากจะเปิดตัวปั๊มจำหน่ายไบโอดีเซล 5% (น้ำมันดีเซล 95% ผสมไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว 5%) จำนวน 4 แห่ง ใน กทม. ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้
"ขณะนี้การค้าน้ำมันเป็นระบบเสรี หากค่าการตลาดจะปรับขึ้นคงต้องให้ผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดของตลาดปรับส่วนแบ่งหรือปรับราคาน้ำมันเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่รอดแล้วรายอื่นจะได้ปรับเพิ่มตาม" นายมนูญ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าผู้ค้าน้ำมันไม่ควรออกมาประกาศวันขึ้นราคาน้ำมันล่วงหน้า นายมนูญ กล่าวว่า คงเป็นความเป็นห่วงของนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ต้องการให้เกิดการกักตุนน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้ค่าการตลาดในส่วนของเบนซินลดต่ำลงจนถึงขั้นขาดทุนเพราะควรจะได้ 1.50 บาทต่อลิตร แต่ขณะนี้ติดลบถึง 50 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะปรับราคาน้ำมันหรือไม่จะต้องดูราคาตลาดโลกใน 1-2 วันนี้ก่อน
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ระดับราคาน้ำมันตลาดโลกมีทิศทางปรับสูงขึ้น ในขณะที่ภาวะการค้าปลีกน้ำมันส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยดีนัก ผู้ค้าน้ำมันในประเทศมี 2 ส่วน ทั้งที่มีโรงกลั่นน้ำมันของตนเองและไม่มีโรงกลั่น รายใดที่มีโรงกลั่นอยู่ด้วยหากมีค่าการกลั่นที่พออยู่ได้ก็ควรจะผ่อนคลายค่าการตลาดให้กับผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันเพื่อช่วยเหลือในการลดต้นทุนและส่วนหนึ่งยังจะสามารถสะท้อนไปยังราคาที่จำหน่ายให้กับผู้บริโภคด้วย
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ. ปตท. กล่าวว่า ปตท. พยายามส่งเสริมการใช้เอ็นจีวีเพิ่มมากขึ้น และนโยบายกระทรวงพลังงานก็ให้มาแล้วว่าพร้อมส่งเสริมให้ผู้ค้านำมันรายอื่น ๆ หันมาสร้างปั๊มเอ็นจีวีเพื่อให้มีการก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว