ธนาคารกรุงไทยเร่งสมาชิก ช.พ.ค. ใช้สิทธิกู้ ก่อนวันที่ 30 กันยายนนี้ เกรงหากรอโครงการในเฟส ใหม่ อาจได้รับเงินล่าช้า เพราะต้องรอพิจารณาคุณสมบัติ และอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น
นายเจริญศิลป์ เภกะนันทน์ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่าย สายงานธุรกิจภาครัฐ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยความคืบหน้าโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกคุรุสภา หรือ ช.พ.ค. ซึ่งธนาคารได้ขยายระยะเวลาปิดรับคำขอสินเชื่อไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2548ว่า ขณะนี้ธนาคารได้อนุมัติเงินกู้ให้กับสมาชิก ช.พ.ค.ไปแล้วจำนวน 33,022 ราย เป็นวงเงินรวม 6,572 ล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติอีกจำนวน 5,139 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในเร็วๆ นี้ เนื่องจากสาขาทุกแห่งมีประสบการณ์ในการพิจารณาสินเชื่อดังกล่าวเป็นอย่างดี
“สำหรับคุณครูที่เป็นสมาชิกช.พ.ค. ที่อายุเกิน 55 ปีขึ้นไป และยังไม่ได้ใช้สิทธิกู้ ขอให้รีบติดต่อกับสำนักงาน ช.พ.ค.จังหวัดที่เป็นสมาชิกอยู่ เพื่อยื่นความจำนงการขอกู้ หรืออาจสอบถามรายละเอียดขั้นตอนปฏิบัติจากสาขาของธนาคารที่ใช้บัญชีอยู่ เพราะขณะนี้ใกล้ปิดโครงการแล้ว เหลือระยะเวลาเพียง 2 เดือน”
นายเจริญศิลป์ เภกะนันทน์ ได้กล่าวต่อไปว่า สมาชิกช.พ.ค.ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจกู้ เพราะกลัวว่าวงเงินจะหมด ขอให้สบายใจ เพราะธนาคารได้เตรียมวงเงินกู้สำหรับโครงการนี้ไว้ถึง 16,500 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับ และที่สำคัญเงื่อนไขการกู้ไม่ยุ่งยาก อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ คือคิดในอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MLR) ปัจจุบันเท่ากับ 5.75% ดังนั้น วงเงินกู้ 200,000 บาท จึงเสียดอกเบี้ยเพียง 1,000 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่รอโครงการในเฟสต่อไปนั้น อยากให้ข้อคิดว่าขณะนี้ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น และอาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคุณสมบัติ
อนึ่ง โครงการเงินกู้ ช.พ.ค.เป็นโครงการที่ให้ข้าราชการครูที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค. ที่อายุเกิน 55 ปีขึ้นหรือเกษียณอายุกู้ เพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น และเพิ่มคุณภาพชีวิต โดยธนาคารจะหักดอกเบี้ยจากบัญชีเงินเดือน หรือเงินบำนาญของผู้กู้ ส่วนเงินต้นธนาคารจะหักจากเงิน ช.พ.ค. หลังจากที่ผู้กู้เสียชีวิตแล้ว
นายเจริญศิลป์ เภกะนันทน์ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่าย สายงานธุรกิจภาครัฐ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยความคืบหน้าโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกคุรุสภา หรือ ช.พ.ค. ซึ่งธนาคารได้ขยายระยะเวลาปิดรับคำขอสินเชื่อไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2548ว่า ขณะนี้ธนาคารได้อนุมัติเงินกู้ให้กับสมาชิก ช.พ.ค.ไปแล้วจำนวน 33,022 ราย เป็นวงเงินรวม 6,572 ล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติอีกจำนวน 5,139 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในเร็วๆ นี้ เนื่องจากสาขาทุกแห่งมีประสบการณ์ในการพิจารณาสินเชื่อดังกล่าวเป็นอย่างดี
“สำหรับคุณครูที่เป็นสมาชิกช.พ.ค. ที่อายุเกิน 55 ปีขึ้นไป และยังไม่ได้ใช้สิทธิกู้ ขอให้รีบติดต่อกับสำนักงาน ช.พ.ค.จังหวัดที่เป็นสมาชิกอยู่ เพื่อยื่นความจำนงการขอกู้ หรืออาจสอบถามรายละเอียดขั้นตอนปฏิบัติจากสาขาของธนาคารที่ใช้บัญชีอยู่ เพราะขณะนี้ใกล้ปิดโครงการแล้ว เหลือระยะเวลาเพียง 2 เดือน”
นายเจริญศิลป์ เภกะนันทน์ ได้กล่าวต่อไปว่า สมาชิกช.พ.ค.ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจกู้ เพราะกลัวว่าวงเงินจะหมด ขอให้สบายใจ เพราะธนาคารได้เตรียมวงเงินกู้สำหรับโครงการนี้ไว้ถึง 16,500 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับ และที่สำคัญเงื่อนไขการกู้ไม่ยุ่งยาก อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ คือคิดในอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MLR) ปัจจุบันเท่ากับ 5.75% ดังนั้น วงเงินกู้ 200,000 บาท จึงเสียดอกเบี้ยเพียง 1,000 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่รอโครงการในเฟสต่อไปนั้น อยากให้ข้อคิดว่าขณะนี้ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น และอาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคุณสมบัติ
อนึ่ง โครงการเงินกู้ ช.พ.ค.เป็นโครงการที่ให้ข้าราชการครูที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค. ที่อายุเกิน 55 ปีขึ้นหรือเกษียณอายุกู้ เพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น และเพิ่มคุณภาพชีวิต โดยธนาคารจะหักดอกเบี้ยจากบัญชีเงินเดือน หรือเงินบำนาญของผู้กู้ ส่วนเงินต้นธนาคารจะหักจากเงิน ช.พ.ค. หลังจากที่ผู้กู้เสียชีวิตแล้ว


