ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้า ผลจากการดำเนินโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น ซึ่งประกอบด้วย 11 โครงการย่อย จะช่วยส่งเสริมให้สินค้าแฟชั่นของไทยจะมียอดส่งออกเพิ่มจาก 300,000 ล้านบาท เป็น 600,000 ล้านบาท หรือมียอดส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ล่าสุดเปิดศูนย์รวบรวมแนวโน้มแฟชั่นโลกที่ชั้น 5 เซ็นทรัล เวิลด์ ทาวเวอร์
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น กล่าวว่า ในช่วงอีก 5 ปีจากนี้ไป หากยังได้ดูแลโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่นอย่างต่อเนื่อง จะสามารถผลักดันให้สินค้าแฟชั่นไทย ซึ่งประกอบด้วยอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและเครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ มียอดส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จากปัจจุบันมียอดส่งออกสินค้าทั้ง 3 ส่วนรวม 300,000 ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 600,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายปานปรีย์ เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญารับมอบพื้นที่ชั้น 5 จากอาคารเซ็นทรัล เวิลด์ ทาวเวอร์ จำนวน 500 ตารางเมตร ระยะเวลาเช่า 18 เดือน จากบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ให้กับบริษัท พิมพลัส พีอาร์ จำกัด ผู้รับสัญญาจ้างจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวไปจัดตั้งโครงการศูนย์รวบรวมแนวโน้มแฟชั่นโลก หรือ Fashion Trend Center หนึ่งใน 11 โครงการย่อยของโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นห้องสมุดที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและเผยแพร่แนวโน้มทิศทางของแฟชั่นให้แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟชั่น นอกจากนี้ นายปานปรีย์ ยังไปตรวจเยี่ยมความคืบหน้าของศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านแฟชั่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย
น.ส.พิมพ์ เอกชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท พิมพลัส พีอาร์ ในฐานะผู้จัดการโครงการ Fashion Trend Center กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในเดือนกันยายนนี้ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาด้านแฟชั่นให้กับประเทศไทย และยังมีการจัดนิทรรศการแนวโน้มแฟชั่นของแต่ละฤดูกาล ตลอดจนมีการจัดสัมมนาเรื่องแนวโน้มแฟชั่นโลก สำหรับการจัดพื้นที่ภายใน ศูนย์รวบรวมแนวโน้มแฟชั่นโลก แบ่งเป็นพื้นที่บริการร้อยละ 35 พื้นที่สำหรับจัดแสดงข้อมูล ชั้นวางหนังสือร้อยละ 25 พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการย่อยร้อยละ 15 และพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ อีกร้อยละ 25 โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 08.00-18.00 น
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น กล่าวว่า ในช่วงอีก 5 ปีจากนี้ไป หากยังได้ดูแลโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่นอย่างต่อเนื่อง จะสามารถผลักดันให้สินค้าแฟชั่นไทย ซึ่งประกอบด้วยอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและเครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ มียอดส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จากปัจจุบันมียอดส่งออกสินค้าทั้ง 3 ส่วนรวม 300,000 ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 600,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายปานปรีย์ เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญารับมอบพื้นที่ชั้น 5 จากอาคารเซ็นทรัล เวิลด์ ทาวเวอร์ จำนวน 500 ตารางเมตร ระยะเวลาเช่า 18 เดือน จากบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ให้กับบริษัท พิมพลัส พีอาร์ จำกัด ผู้รับสัญญาจ้างจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวไปจัดตั้งโครงการศูนย์รวบรวมแนวโน้มแฟชั่นโลก หรือ Fashion Trend Center หนึ่งใน 11 โครงการย่อยของโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นห้องสมุดที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและเผยแพร่แนวโน้มทิศทางของแฟชั่นให้แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟชั่น นอกจากนี้ นายปานปรีย์ ยังไปตรวจเยี่ยมความคืบหน้าของศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านแฟชั่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย
น.ส.พิมพ์ เอกชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท พิมพลัส พีอาร์ ในฐานะผู้จัดการโครงการ Fashion Trend Center กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในเดือนกันยายนนี้ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาด้านแฟชั่นให้กับประเทศไทย และยังมีการจัดนิทรรศการแนวโน้มแฟชั่นของแต่ละฤดูกาล ตลอดจนมีการจัดสัมมนาเรื่องแนวโน้มแฟชั่นโลก สำหรับการจัดพื้นที่ภายใน ศูนย์รวบรวมแนวโน้มแฟชั่นโลก แบ่งเป็นพื้นที่บริการร้อยละ 35 พื้นที่สำหรับจัดแสดงข้อมูล ชั้นวางหนังสือร้อยละ 25 พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการย่อยร้อยละ 15 และพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ อีกร้อยละ 25 โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 08.00-18.00 น