ศรีไทยวางแผนปั้นน้องใหม่ “เอกตรา” เต็มแรง ลงทุนเปิดร้านค้าปลีกขายเฉพาะที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เตรียมเปิดบริษัทขายตรงสองชั้นช่วยอีกแรง มั่นใจสินค้าไม่ชนกับกลุ่มเดิมของศรีไทยซุปเปอร์แวร์
นายไชยโรจน์ เอี่ยงธนรัตน์ ผู้บริหาร บริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดบริษัทขายตรงสองชั้นขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าใหม่ๆ ของบริษัทที่จะมีมากขึ้นในอนาคตนอกเหนือจากเมลามีนอาทิ กล่องบรรจุเอนกประสงค์ หรือซุปเปอร์แวร์ ล็อกแอนด์ล็อก และสินค้าเอกตรารุ่นคลาสสิก เป็นต้น
ล่าสุดบริษัทฯ ได้แตกสินค้าเมลามีนยี่ห้อใหม่ลงตลาดคือ แบรนด์เอกตรา ซึ่งได้ทดลองวางสินค้านี้ในช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีความทันสมัย เพราะจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ เช่น ลอฟต์ พรอพพากานด้า เพลย์กราวน์และเอ็มโพเรียม ซึ่งได้ร่วมมือกับพร็อพพากานดาทำการออกแบบดีไซน์สินค้าดังกล่าวให้มีความทันสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากสินค้าเดิมของซุปเปอร์แวร์คือ functional, emotional and spirituality
นายไชยโรจน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดร้านค้าปลีกของตัวเองหลังจากที่มีการทดลองจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยจะเปิดร้านสาขาแรกที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสาขาพหลโยธิน และเร็วๆ นี้มีแผนจะปรับร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ซีคอนสแควร์เป็นร้าน specialty store อีกด้วย เพื่อขายสินค้าเมลามีนครบวงจรทั้งซุปเปอร์แวร์และเอกตรา
ทั้งนี้ระดับราคาสินค้าของเอกตราจะสูงกว่าสินค้าของซุปเปอร์แวร์ประมาณ 20% เฉลี่ยราคาอยู่ที่ 200-400 บาทต่อรายการ และสินค้าของเอกตราจะเน้นสินค้าสำหรับห้องพักผ่อนเป็นหลักต่างจากสินค้าซุปเปอร์แวร์ที่จะเป็นสินค้าใช้ในครัวเรือนเป็นหลัก และขายผ่านช่องทางขายตรงเป็นส่วนใหญ่ ขณะนี้สินค้าเอกตรามีให้เลือกประมาณ 30 รายการ
“นอกจากตลาดเมืองไทยแล้วเรายังส่งแบรนด์เอกตราไปจำหน่ายต่างประเทศด้วย คือประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ที่เริ่มส่งออกเมื่อ 2 เดือนก่อน และเร็วๆ นี้วางแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อบ้านเช่น มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ ด้วย” นายไชยโรจน์กล่าว
นายไชยโรจน์ เอี่ยงธนรัตน์ ผู้บริหาร บริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดบริษัทขายตรงสองชั้นขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าใหม่ๆ ของบริษัทที่จะมีมากขึ้นในอนาคตนอกเหนือจากเมลามีนอาทิ กล่องบรรจุเอนกประสงค์ หรือซุปเปอร์แวร์ ล็อกแอนด์ล็อก และสินค้าเอกตรารุ่นคลาสสิก เป็นต้น
ล่าสุดบริษัทฯ ได้แตกสินค้าเมลามีนยี่ห้อใหม่ลงตลาดคือ แบรนด์เอกตรา ซึ่งได้ทดลองวางสินค้านี้ในช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีความทันสมัย เพราะจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ เช่น ลอฟต์ พรอพพากานด้า เพลย์กราวน์และเอ็มโพเรียม ซึ่งได้ร่วมมือกับพร็อพพากานดาทำการออกแบบดีไซน์สินค้าดังกล่าวให้มีความทันสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากสินค้าเดิมของซุปเปอร์แวร์คือ functional, emotional and spirituality
นายไชยโรจน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดร้านค้าปลีกของตัวเองหลังจากที่มีการทดลองจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยจะเปิดร้านสาขาแรกที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสาขาพหลโยธิน และเร็วๆ นี้มีแผนจะปรับร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ซีคอนสแควร์เป็นร้าน specialty store อีกด้วย เพื่อขายสินค้าเมลามีนครบวงจรทั้งซุปเปอร์แวร์และเอกตรา
ทั้งนี้ระดับราคาสินค้าของเอกตราจะสูงกว่าสินค้าของซุปเปอร์แวร์ประมาณ 20% เฉลี่ยราคาอยู่ที่ 200-400 บาทต่อรายการ และสินค้าของเอกตราจะเน้นสินค้าสำหรับห้องพักผ่อนเป็นหลักต่างจากสินค้าซุปเปอร์แวร์ที่จะเป็นสินค้าใช้ในครัวเรือนเป็นหลัก และขายผ่านช่องทางขายตรงเป็นส่วนใหญ่ ขณะนี้สินค้าเอกตรามีให้เลือกประมาณ 30 รายการ
“นอกจากตลาดเมืองไทยแล้วเรายังส่งแบรนด์เอกตราไปจำหน่ายต่างประเทศด้วย คือประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ที่เริ่มส่งออกเมื่อ 2 เดือนก่อน และเร็วๆ นี้วางแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อบ้านเช่น มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ ด้วย” นายไชยโรจน์กล่าว