เจเอสแอล รับผิด คืนเงินค่างวด-สปอนเซอร์ “ยงยุทธ” เตรียมตั้งคณะกรรมการคุมสัญญาจ้าง พร้อมส่งคณะกรรมการกลางเข้ากำกับดูแลการทำงานทั้งหมด
นายยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงปัญหาการก่อสร้างศาลาทรงไทย ของบริษัทเจเอสแอล ที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า ล่าสุดบริษัท เจเอสแอล ได้ตกลงแล้วว่า จะคืนเงินค่างวดทั้งหมดที่เบิกไป ที่เกี่ยวกับสิทธิ หรือสปอนเซอร์ กับบริษัทเอกชน หรือหน่วยงานอื่นๆ ให้กับรัฐ เพราะไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะรับเงินจากเอกชนได้ ส่วนเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรูปแบบของศาลาไทย เจเอสแอลก็จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป โดยขณะนี้ได้ดำเนินการขนย้ายอุปกรณ์ สิ่งก่อสร้างไปจากเมืองไทยแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทการบินไทยเป็นอย่างดี
สำหรับความผิดพลาดของเจเอสแอลในครั้งนี้ ยังไม่ถือว่าร้ายแรง จนต้องบอกเลิกสัญญา เพียงแต่แจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นให้เจเอสแอลทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไข ขณะเดียวกัน บริษัทเจเอสแอลก็ยังไม่เข้าค่ายที่จะต้องถูกขึ้นบัญชีดำของรัฐบาล และสามารถเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐได้ต่อไปหากมีความสนใจ อย่างไรก็ตามรูปแบบของศาลาไทย ที่จะออกมาใหม่นี้ จะต้องอยู่ในคอนเซปต์ที่อะไรก็ได้ที่คนอยากเข้าไปดู และพอกลับออกมาต้องได้แนวคิดถึงประเทศไทยออกมาด้วย เช่น ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ หรือ สินค้าไทย
นายยงยุทธ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่เราจะต้องเตรียมความพร้อมต่อไปคือ ในวันที่ 12 สิงหาคม ที่เราต้องเตรียมความพร้อมให้ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะสถานที่ พื้นที่ และเรื่องของการดำเนินการต่างๆ ส่วนการควบคุมการทำงานของเจเอสแอล จะอยู่ภายใต้การกำกับการดูแลของคณะกรรมการกลางทั้งหมด และตนก็ได้ตั้ง คณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน สัญญา การไม่ดูแลทำให้เกิดปัญหาตามมาและอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องทำให้ผลประโยชน์ของรัฐเสียหาย ส่วนเรื่องของการยกเลิกสัญญานั้น ตนได้แจ้งแต่ต้นแล้วว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุ ตัดสินใจทันทีไม่ได้
นายยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงปัญหาการก่อสร้างศาลาทรงไทย ของบริษัทเจเอสแอล ที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า ล่าสุดบริษัท เจเอสแอล ได้ตกลงแล้วว่า จะคืนเงินค่างวดทั้งหมดที่เบิกไป ที่เกี่ยวกับสิทธิ หรือสปอนเซอร์ กับบริษัทเอกชน หรือหน่วยงานอื่นๆ ให้กับรัฐ เพราะไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะรับเงินจากเอกชนได้ ส่วนเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรูปแบบของศาลาไทย เจเอสแอลก็จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป โดยขณะนี้ได้ดำเนินการขนย้ายอุปกรณ์ สิ่งก่อสร้างไปจากเมืองไทยแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทการบินไทยเป็นอย่างดี
สำหรับความผิดพลาดของเจเอสแอลในครั้งนี้ ยังไม่ถือว่าร้ายแรง จนต้องบอกเลิกสัญญา เพียงแต่แจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นให้เจเอสแอลทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไข ขณะเดียวกัน บริษัทเจเอสแอลก็ยังไม่เข้าค่ายที่จะต้องถูกขึ้นบัญชีดำของรัฐบาล และสามารถเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐได้ต่อไปหากมีความสนใจ อย่างไรก็ตามรูปแบบของศาลาไทย ที่จะออกมาใหม่นี้ จะต้องอยู่ในคอนเซปต์ที่อะไรก็ได้ที่คนอยากเข้าไปดู และพอกลับออกมาต้องได้แนวคิดถึงประเทศไทยออกมาด้วย เช่น ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ หรือ สินค้าไทย
นายยงยุทธ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่เราจะต้องเตรียมความพร้อมต่อไปคือ ในวันที่ 12 สิงหาคม ที่เราต้องเตรียมความพร้อมให้ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะสถานที่ พื้นที่ และเรื่องของการดำเนินการต่างๆ ส่วนการควบคุมการทำงานของเจเอสแอล จะอยู่ภายใต้การกำกับการดูแลของคณะกรรมการกลางทั้งหมด และตนก็ได้ตั้ง คณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน สัญญา การไม่ดูแลทำให้เกิดปัญหาตามมาและอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องทำให้ผลประโยชน์ของรัฐเสียหาย ส่วนเรื่องของการยกเลิกสัญญานั้น ตนได้แจ้งแต่ต้นแล้วว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุ ตัดสินใจทันทีไม่ได้