นายวรฑา วัฒนะชยังกูร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เจเอสแอล จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทรับงานจัดอีเว้นท์ในต่างประเทศ 2 โครงการ คือ งานเอ็กซ์โป ที่ญี่ปุ่น งบ 200 ล้านบาทและโครงการกรุงเทพฯเมืองแฟชั่นโรดโชว์ ของกระทรวงอุตสาหกรรม งบประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการ เป็นงานขนาดใหญ่ และงบประมาณที่ได้มามีจำนวนจำกัด จึงคาดว่าจะส่งผลให้ผลดำเนินงานปีนี้ต้องขาดทุนแน่นอน แต่เป็นำนวนมากเท่าใดยังตอบไม่ได้
สำหรับรายได้จากธุรกิจอีเวนท์ของเจเอสแอล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% จากรายได้รวมของบริษัท ซึ่งนอกจากอีเว้นท์ในต่างประเทศแล้ว ในประเทศบริษัทยังมีงานที่รับไว้อีกคิดเป็นเงินราว 150 ล้านบาท
ส่วนแผนปีหน้าบริษัทได้รับทำอีเว้นท์ให้กับองค์กรระดับโลกที่จัดในประเทศไทยเดือนเมษายน 2549 ด้วยงบประมาณ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ในส่วนของโครงการกรุงเทพฯเมืองแฟชั่นโรดโชว์ ซึ่งจะจัดขึ้นใน 8 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 11 โครงการ บริษัทฯได้วางแผนการใช้งบประมาณอย่างรัดกุม และหาสปอนเซอร์เข้ามาช่วยสนับสนุน นอกจากนั้นยังวางแผนให้แต่ละทีมที่ทำงานเกิดการแข่งขันกันเองเพื่อผลงานจะได้ออกมาดีที่สุด ยอมรับว่า งานเอ็กซ์โป ที่ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นเรื่องโชคร้ายของบริษัท แต่จะมาวัดไม่ได้กับงานแฟชั่นโรดโชว์ เพราะเป็นคนละงานกัน แต่ก็มีผลทางจิตวิทยา หากบริษัทจะไปประมูลงานอื่นต่อไป เพราะผู้จ้างอาจลังเล และไม่เชื่อมั่น
สำหรับรายได้จากธุรกิจอีเวนท์ของเจเอสแอล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% จากรายได้รวมของบริษัท ซึ่งนอกจากอีเว้นท์ในต่างประเทศแล้ว ในประเทศบริษัทยังมีงานที่รับไว้อีกคิดเป็นเงินราว 150 ล้านบาท
ส่วนแผนปีหน้าบริษัทได้รับทำอีเว้นท์ให้กับองค์กรระดับโลกที่จัดในประเทศไทยเดือนเมษายน 2549 ด้วยงบประมาณ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ในส่วนของโครงการกรุงเทพฯเมืองแฟชั่นโรดโชว์ ซึ่งจะจัดขึ้นใน 8 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 11 โครงการ บริษัทฯได้วางแผนการใช้งบประมาณอย่างรัดกุม และหาสปอนเซอร์เข้ามาช่วยสนับสนุน นอกจากนั้นยังวางแผนให้แต่ละทีมที่ทำงานเกิดการแข่งขันกันเองเพื่อผลงานจะได้ออกมาดีที่สุด ยอมรับว่า งานเอ็กซ์โป ที่ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นเรื่องโชคร้ายของบริษัท แต่จะมาวัดไม่ได้กับงานแฟชั่นโรดโชว์ เพราะเป็นคนละงานกัน แต่ก็มีผลทางจิตวิทยา หากบริษัทจะไปประมูลงานอื่นต่อไป เพราะผู้จ้างอาจลังเล และไม่เชื่อมั่น