นายกสมาคมโฆษณาฯเผยปัจจัยลบรุมธุรกิจโฆษณาไตรมาสแรกโตเพียง 1-4% หวังไตรมาส 2 จะปรับตัวดีขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันในไตรมาส 3 พร้อมเผยปีนี้เลื่อนจัดงาน "แอดแมน อวอร์ด แอนด์ ซิมโฟเซี่ยม ครั้งที่ 2" ให้เร็วขึ้น เพื่อเตรียมรับศึกงานโฆษณาระดับเวิลด์คลาสที่เมืองคานส์ ตั้งเป้าปีนี้ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดมากขึ้น 15-20% จากปีแรกที่มีผลงาน1,238 ชิ้นจาก 80 บริษัท
นายชัยประนิน วิสุทธิผล นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมวงการโฆษณาช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 1-4% ซึ่งถือว่าน้อย หากเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้วที่โต 10% ทั้งนี้เป็นเพราะผลกระทบจาก 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ น้ำมันแพง ซึ่งมีผลต่อกระทบต่อจิตวิทยาของผู้บริโภคมาก แต่มีผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบน้อย ส่วนอีกเรื่องคือ กรณีภาคใต้ เช่น วางระเบิดที่หาดใหญ่ส่งผลให้คนเริ่มไม่มั่นใจในการใช้จ่าย แต่เท่าที่มีการพูดคุยกับเจ้าของสินค้าแต่ละรายลูกค้ายังไม่เลิกใช้เงินทางด้านสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ แต่อาจจะมีบ้างที่ชะลอการใช้จ่ายเงินลงในช่วงไตรมาสแรก
ขณะที่ไตรมาส 2 ภาพรวมคาดว่าจะดีและเห็นภาพชัดเจนขึ้น ส่วนไตรมาส 3 อาจจะชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน การใช้เงินก็จะน้อยลง ขณะที่ไตรมาสที่4 จะกลับมาดีขึ้นอีก ทั้งนี้เชื่อว่าภาพรวมของวงการโฆษณาทั้งปีนี้จะโต 10% และเทรนด์การใช้เงินจะทุ่มไปทางบีโลว์ เดอะ ไลน์มากกว่าอโบพ เดอะ ไลน์
จัดงานแอดแมนฯครั้งที่ 2เร็วขึ้น
นายกสมาคมโฆษณาฯ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ปีแรกประสบความสำเร็จในการจัดงานแอดแมนเป็นครั้งแรก ในช่วงเดือนกันยายน แต่ปีนี้ทางสมาคมโฆษณาฯ ได้จัด "งานแอดแมน อวอร์ด แอนด์ ซิมโฟเซี่ยม ครั้งที่ 2" เร็วขึ้น คือ ช่วงประมาณมิถุนายน เพื่อเป็นการสร้างเทรนด์หรือการทำนายผลงานโฆษณาของไทยว่าสามารถไปอยู่ในระดับเวิลด์คลาสได้ ก่อนที่งานอินเตอร์เนชั่นแนล แอดเวอร์ไทสทวิ่ง เฟสติวัล ที่เมืองคานส์จะเริ่มขึ้น ในวันที่ 19-25 มิถุนายนนี้
ปีนี้คาดว่าจะมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดมากขึ้น 15-20% จากปีแรกที่มีผู้ส่งผลงาน 1,238 ชิ้นจาก 80 บริษัท สำหรับแนวคิดในปีนี้ “สดใหม่สุดขั้ว” โดยจะเน้นที่ความสดใหม่ของงานโฆษณาและงานสื่อสารการตลาดที่แปลกใหม่ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของวงการโฆษณาในบ้านเรา ซึ่งในปีนี้มีความแตกต่างจากปีที่แล้วในเรื่องการเพิ่มประเภทของของการประกวดเป็น 16 แคธิกอรี่ จากเดิมมี 14 แคธิกอรี่ และจะมีการจัดโรดโชว์เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มมีเดียให้มีการนำเสนอผลงานมากขึ้น ซึ่งผลงานที่มีสิทธิ์ส่งเข้าประกวดจะต้องเผยแพร่ในระหว่าง 1 ก.ค. -31 พ.ค. 48 สำหรับงานแอดแมนฯครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 10 มิถุนายน 2548
นายชัยประนิน วิสุทธิผล นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมวงการโฆษณาช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 1-4% ซึ่งถือว่าน้อย หากเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้วที่โต 10% ทั้งนี้เป็นเพราะผลกระทบจาก 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ น้ำมันแพง ซึ่งมีผลต่อกระทบต่อจิตวิทยาของผู้บริโภคมาก แต่มีผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบน้อย ส่วนอีกเรื่องคือ กรณีภาคใต้ เช่น วางระเบิดที่หาดใหญ่ส่งผลให้คนเริ่มไม่มั่นใจในการใช้จ่าย แต่เท่าที่มีการพูดคุยกับเจ้าของสินค้าแต่ละรายลูกค้ายังไม่เลิกใช้เงินทางด้านสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ แต่อาจจะมีบ้างที่ชะลอการใช้จ่ายเงินลงในช่วงไตรมาสแรก
ขณะที่ไตรมาส 2 ภาพรวมคาดว่าจะดีและเห็นภาพชัดเจนขึ้น ส่วนไตรมาส 3 อาจจะชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน การใช้เงินก็จะน้อยลง ขณะที่ไตรมาสที่4 จะกลับมาดีขึ้นอีก ทั้งนี้เชื่อว่าภาพรวมของวงการโฆษณาทั้งปีนี้จะโต 10% และเทรนด์การใช้เงินจะทุ่มไปทางบีโลว์ เดอะ ไลน์มากกว่าอโบพ เดอะ ไลน์
จัดงานแอดแมนฯครั้งที่ 2เร็วขึ้น
นายกสมาคมโฆษณาฯ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ปีแรกประสบความสำเร็จในการจัดงานแอดแมนเป็นครั้งแรก ในช่วงเดือนกันยายน แต่ปีนี้ทางสมาคมโฆษณาฯ ได้จัด "งานแอดแมน อวอร์ด แอนด์ ซิมโฟเซี่ยม ครั้งที่ 2" เร็วขึ้น คือ ช่วงประมาณมิถุนายน เพื่อเป็นการสร้างเทรนด์หรือการทำนายผลงานโฆษณาของไทยว่าสามารถไปอยู่ในระดับเวิลด์คลาสได้ ก่อนที่งานอินเตอร์เนชั่นแนล แอดเวอร์ไทสทวิ่ง เฟสติวัล ที่เมืองคานส์จะเริ่มขึ้น ในวันที่ 19-25 มิถุนายนนี้
ปีนี้คาดว่าจะมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดมากขึ้น 15-20% จากปีแรกที่มีผู้ส่งผลงาน 1,238 ชิ้นจาก 80 บริษัท สำหรับแนวคิดในปีนี้ “สดใหม่สุดขั้ว” โดยจะเน้นที่ความสดใหม่ของงานโฆษณาและงานสื่อสารการตลาดที่แปลกใหม่ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของวงการโฆษณาในบ้านเรา ซึ่งในปีนี้มีความแตกต่างจากปีที่แล้วในเรื่องการเพิ่มประเภทของของการประกวดเป็น 16 แคธิกอรี่ จากเดิมมี 14 แคธิกอรี่ และจะมีการจัดโรดโชว์เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มมีเดียให้มีการนำเสนอผลงานมากขึ้น ซึ่งผลงานที่มีสิทธิ์ส่งเข้าประกวดจะต้องเผยแพร่ในระหว่าง 1 ก.ค. -31 พ.ค. 48 สำหรับงานแอดแมนฯครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 10 มิถุนายน 2548