กลุ่มโรงกลั่นน้ำมันเสนอลดสเปกน้ำมันดีเซลบรรเทาผลกระทบการขาดแคลนดีเซลในภูมิภาค และราคาดีเซลแพง ส่วนค่าการกลั่นยังไม่ฟันธงว่าเห็นด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหาทางออกเพื่อลดการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลที่อาจจะขึ้นสูงและกระทบต่อค่าครองชีพสูงมากเกินไป เมื่อวานนี้ นายเมตตา บันทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้พยายามหาทางออกหลายแนวทาง เช่น การระดมความเห็นจากโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ เป็นต้น
นายมงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล โฆษกกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มโรงกลั่นพร้อมให้ความร่วมมือต่อภาครัฐในการลดภาระของประชาชน โดยทั้ง 2 ฝ่าย คือโรงกลั่นและ ประชาชนจะมีความเหมาะสมซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางการไม่ได้ขอความร่วมมือในการลดค่าการกลั่นน้ำมันและความจริงแล้วค่าการกลั่นที่ทางการมองว่าสูงก็ไม่ได้หมายความสูงตลอดทั้งปี และในปีนี้จากราคาน้ำมันดิบที่สูงมากก็คาดว่าค่าการกลั่นจะได้ต่ำกว่าปีที่แล้ว
“ในกระบวนการกลั่นนั้น ได้น้ำมันหลายรูปแบบ ทั้งผลิตภัณฑ์ราคาต่ำ เช่น น้ำมันเตา และราคาสูง คือ ดีเซลและเบนซิน ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบปีนี้สูงมาก และค่าการกลั่นแต่ละโรงกลั่นก็ไม่เท่ากัน และคาดว่าค่าการกลั่นปีนี้จะไม่ได้สูงเท่าปีที่แล้ว” นายมงคลนิมิตร กล่าว
นายมงคลนิมิตร กล่าวว่า กลุ่มโรงกลั่นฯ ได้ เสนอความเห็นว่า เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนดีเซล ที่ขณะนี้เป็นประเด็นหลัก จนทำให้ราคาดีเซลภูมิภาคนี้ปรับขึ้นมาสูงมากอย่างเป็นประวัติการณ์จะเสนอให้ภาครัฐพิจารณาผ่อนคลายหลายประการ โดยเฉพาะการลดสเปคน้ำมันดีเซลชั่วคราว เช่น เพิ่มค่ากำมะถันจากร้อยละ 0.035 เป็นร้อยละ 0.050 และเพิ่มองศาการกลั่นจาก 357 องศาเซลเซียส เพิ่มเป็น 370 เซลเซียส ซึ่งการเพิ่มองศาการกลั่นจะทำให้เพิ่มปริมาณน้ำมันได้มากขึ้นร้อยละ 5-6 อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการลดสเปคดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อด้านสิ่งแวดล้อม โดยต้องผ่านความเห็นชอบจากกรมควบคุมมลพิษด้วย
ด้านราคาน้ำมันดิบซื้อขายสูงสุดระหว่างวันวานนี้กระชากตัวสูงขึ้นกว่าบาร์เรลละ 1 เหรียญสหรัฐ ราคาระหว่างการซื้อขึ้นไปกว่า 57 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ปิดตลาดอ่อนตัวลงเบาบางจากการทำกำไรช่วงสั้น ทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กสหรัฐ ลดลงบาร์เรลละ 6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 56.40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อังกฤษปิดที่ระดับบาร์เรลละ 55.06 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18 เซ็นต์ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันเบนซิน 95 ที่ตลาดสิงคโปร์ ปิดที่ระดับ 59.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นบาร์เรลละ 1.15 ดอลลาร์สหรัฐ และน้ำมันดีเซลที่สิงคโปร์ปิดที่ระดับ 65.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบดูไบ 47.49 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหาทางออกเพื่อลดการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลที่อาจจะขึ้นสูงและกระทบต่อค่าครองชีพสูงมากเกินไป เมื่อวานนี้ นายเมตตา บันทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้พยายามหาทางออกหลายแนวทาง เช่น การระดมความเห็นจากโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ เป็นต้น
นายมงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล โฆษกกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มโรงกลั่นพร้อมให้ความร่วมมือต่อภาครัฐในการลดภาระของประชาชน โดยทั้ง 2 ฝ่าย คือโรงกลั่นและ ประชาชนจะมีความเหมาะสมซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางการไม่ได้ขอความร่วมมือในการลดค่าการกลั่นน้ำมันและความจริงแล้วค่าการกลั่นที่ทางการมองว่าสูงก็ไม่ได้หมายความสูงตลอดทั้งปี และในปีนี้จากราคาน้ำมันดิบที่สูงมากก็คาดว่าค่าการกลั่นจะได้ต่ำกว่าปีที่แล้ว
“ในกระบวนการกลั่นนั้น ได้น้ำมันหลายรูปแบบ ทั้งผลิตภัณฑ์ราคาต่ำ เช่น น้ำมันเตา และราคาสูง คือ ดีเซลและเบนซิน ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบปีนี้สูงมาก และค่าการกลั่นแต่ละโรงกลั่นก็ไม่เท่ากัน และคาดว่าค่าการกลั่นปีนี้จะไม่ได้สูงเท่าปีที่แล้ว” นายมงคลนิมิตร กล่าว
นายมงคลนิมิตร กล่าวว่า กลุ่มโรงกลั่นฯ ได้ เสนอความเห็นว่า เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนดีเซล ที่ขณะนี้เป็นประเด็นหลัก จนทำให้ราคาดีเซลภูมิภาคนี้ปรับขึ้นมาสูงมากอย่างเป็นประวัติการณ์จะเสนอให้ภาครัฐพิจารณาผ่อนคลายหลายประการ โดยเฉพาะการลดสเปคน้ำมันดีเซลชั่วคราว เช่น เพิ่มค่ากำมะถันจากร้อยละ 0.035 เป็นร้อยละ 0.050 และเพิ่มองศาการกลั่นจาก 357 องศาเซลเซียส เพิ่มเป็น 370 เซลเซียส ซึ่งการเพิ่มองศาการกลั่นจะทำให้เพิ่มปริมาณน้ำมันได้มากขึ้นร้อยละ 5-6 อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการลดสเปคดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อด้านสิ่งแวดล้อม โดยต้องผ่านความเห็นชอบจากกรมควบคุมมลพิษด้วย
ด้านราคาน้ำมันดิบซื้อขายสูงสุดระหว่างวันวานนี้กระชากตัวสูงขึ้นกว่าบาร์เรลละ 1 เหรียญสหรัฐ ราคาระหว่างการซื้อขึ้นไปกว่า 57 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ปิดตลาดอ่อนตัวลงเบาบางจากการทำกำไรช่วงสั้น ทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กสหรัฐ ลดลงบาร์เรลละ 6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 56.40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อังกฤษปิดที่ระดับบาร์เรลละ 55.06 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18 เซ็นต์ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันเบนซิน 95 ที่ตลาดสิงคโปร์ ปิดที่ระดับ 59.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นบาร์เรลละ 1.15 ดอลลาร์สหรัฐ และน้ำมันดีเซลที่สิงคโปร์ปิดที่ระดับ 65.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบดูไบ 47.49 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล