"พล.ต.อ.สล้าง"ออกโรงแนะรัฐบาลสร้างระบบรถไฟฟ้าทั้งส่วนต่อขยายและสร้างใหม่อีก 10 เส้นทาง ด้วยงบประมาณ 500,000 ล้านบาท หากใช้เส้นทางรถไฟเดิมและสร้างบนดิน ช่วยประหยัดงบจากเดิมได้ถึงร้อยละ 85 ยืนยันที่ออกมาเรียกร้องครั้งนี้ไม่มีอะไรแอบแฝงหรือเป็นตัวแทนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตประธานคณะทำงานด้านความปลอดภัยทางบก คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดบ้านที่ถนนแจ้งวัฒนะชี้แจงต่อมวลชนเพื่อเสนอแนะรัฐบาลเกี่ยวการสร้างระบบรถไฟฟ้าทั้งส่วนเชื่อมต่อและการสร้างขึ้นใหม่ หลังจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรางอีก 7 สาย ระยะทาง 294 กิโลเมตร เช่น สายสีแดงของการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (รฟท.) เส้นทางสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร และเส้นทางสายสีน้ำเงิน สายสีส้ม สายสีม่วง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยกำหนดให้เสร็จในปี 2552 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว และยังมีเพิ่ม อีก 3 เส้นทาง โดยเป็นงบประมาณการก่อสร้างประมาณ 500,000 ล้านบาท
ซึ่งจากการติดตามงานด้านขนส่งทางบกมาตลอด 30 ปี รวมทั้งคณะทำงานร่วมกันหลายท่านเห็นว่า ส่วนต่อขยายถึง 7 เส้นทาง มีทางยกระดับถึง 197 กม. ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณในการก่อสร้างจำนวนมากและข้อเสียของการสร้างทางยกระดับคือหากเกิดไฟไหม้จะไม่สามารถนำรถเครนเข้าไปช่วยดับไฟได้เลยและเป็นการบดบังทัศนียภาพแบบถาวร ดังนั้น จึงเสนอให้ใช้ทางรถไฟเดิมที่มีอยู่ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาปรับปรุงเป็นระบบรถไฟฟ้า เช่น เส้นทางจากรังสิต-มหาชัย เส้นทางสายตะวันออกยมราช-ลาดกระบัง และรถไฟฟ้าที่ออกไปชายเมืองก็ควรเป็นการสร้างบนพื้นดิน ไม่ควรเป็นการยกระดับ เพราะจะช่วยประหยัดงบประมาณได้ถึงร้อยละ 85
“ยืนยันว่าการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง หรือเป็นตัวแทนนายทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เห็นว่าหากปล่อยให้มีการสร้างตามที่เสนอมาจะสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก เนื่องจากมีหลายกลุ่มที่ต้องการขายอุปกรณ์การก่อสร้าง การวางรากฐาน และขอสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าสร้างระบบรถไฟฟ้าให้เสร็จตามกำหนดเพื่อการแก้ไขปัญหาจราจรของกรุงเทพฯ และปริมณฑล และงบที่ประหยัดได้ก็จะสามารถนำมาก่อสร้าง หรือการแก้ปัญหาจราจรได้อีกจำนวนมาก และการก่อสร้างทางยกระดับจะสร้างปัญหาจราจรระหว่างการก่อสร้างเป็นอย่างมาก” พล.ต.อ.สล้าง กล่าว
พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตประธานคณะทำงานด้านความปลอดภัยทางบก คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดบ้านที่ถนนแจ้งวัฒนะชี้แจงต่อมวลชนเพื่อเสนอแนะรัฐบาลเกี่ยวการสร้างระบบรถไฟฟ้าทั้งส่วนเชื่อมต่อและการสร้างขึ้นใหม่ หลังจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรางอีก 7 สาย ระยะทาง 294 กิโลเมตร เช่น สายสีแดงของการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (รฟท.) เส้นทางสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร และเส้นทางสายสีน้ำเงิน สายสีส้ม สายสีม่วง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยกำหนดให้เสร็จในปี 2552 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว และยังมีเพิ่ม อีก 3 เส้นทาง โดยเป็นงบประมาณการก่อสร้างประมาณ 500,000 ล้านบาท
ซึ่งจากการติดตามงานด้านขนส่งทางบกมาตลอด 30 ปี รวมทั้งคณะทำงานร่วมกันหลายท่านเห็นว่า ส่วนต่อขยายถึง 7 เส้นทาง มีทางยกระดับถึง 197 กม. ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณในการก่อสร้างจำนวนมากและข้อเสียของการสร้างทางยกระดับคือหากเกิดไฟไหม้จะไม่สามารถนำรถเครนเข้าไปช่วยดับไฟได้เลยและเป็นการบดบังทัศนียภาพแบบถาวร ดังนั้น จึงเสนอให้ใช้ทางรถไฟเดิมที่มีอยู่ในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาปรับปรุงเป็นระบบรถไฟฟ้า เช่น เส้นทางจากรังสิต-มหาชัย เส้นทางสายตะวันออกยมราช-ลาดกระบัง และรถไฟฟ้าที่ออกไปชายเมืองก็ควรเป็นการสร้างบนพื้นดิน ไม่ควรเป็นการยกระดับ เพราะจะช่วยประหยัดงบประมาณได้ถึงร้อยละ 85
“ยืนยันว่าการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง หรือเป็นตัวแทนนายทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เห็นว่าหากปล่อยให้มีการสร้างตามที่เสนอมาจะสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก เนื่องจากมีหลายกลุ่มที่ต้องการขายอุปกรณ์การก่อสร้าง การวางรากฐาน และขอสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าสร้างระบบรถไฟฟ้าให้เสร็จตามกำหนดเพื่อการแก้ไขปัญหาจราจรของกรุงเทพฯ และปริมณฑล และงบที่ประหยัดได้ก็จะสามารถนำมาก่อสร้าง หรือการแก้ปัญหาจราจรได้อีกจำนวนมาก และการก่อสร้างทางยกระดับจะสร้างปัญหาจราจรระหว่างการก่อสร้างเป็นอย่างมาก” พล.ต.อ.สล้าง กล่าว


