กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เร่งเก็บข้อมูลรอบด้าน ก่อนสรุปในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ว่าจะขึ้นค่าโดยสารตามที่ผู้ประกอบการเรือโดยสารร้องขอหรือไม่ โดยผู้บริการเรือโดยสารขอปรับเป็นช่วงละ 3 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 บาท จากปัจจุบันค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 15 บาท พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อเพิ่มอัตราเจ้าหน้าที่อีก 194 อัตราในการดูแลประชาชนในท่าที่สำคัญต่างๆที่มีประชาชนมาใช้เป็นจำนวนมาก
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า ตามที่ผู้ให้บริการเรือโดยสารขอปรับค่าโดยสารเรือขึ้นเป็นช่วงละ 3 บาท และค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปัจจุบันค่าโดยสารสูงสุด 15 บาท เพราะไม่ได้ปรับค่าโดยสารมานับตั้งแต่ปี 2541 นั้น ล่าสุดกรมการขนส่งทางน้ำฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเก็บข้อมูลทุก ๆ ด้าน เพื่อพิจารณาว่า สมควรจะปรับค่าโดยสารหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปต้นเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาว่า จะอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารขึ้นหรือไม่ต่อไป
อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า ผู้ประกอบการเรือโดยสารระบุว่า นับตั้งแต่ได้ปรับค่าโดยสารเมื่อปี 2541 ต้นทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องขอปรับค่าโดยสาร ซึ่งในส่วนของกรมการขนส่งทางน้ำฯ ไม่ได้พิจารณาปัจจัยที่ผู้ประกอบการเสนอมาแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่จะพิจารณาด้วยว่า หากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเช่น เพิ่มจาก 100,000 คนต่อวัน เป็น 150,000 คนต่อวัน อาจจะทำให้ไม่จำเป็นต้องปรับค่าโดยสาร เพราะแม้ต้นทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น แต่ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นก็ช่วยทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ตาม การจะอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารเรือหรือไม่ จะต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนได้
อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวถึงการเพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ใช้บริการเรือโดยสารต่าง ๆ ว่า ตามที่กรมการขนส่งทางน้ำฯ มีปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ โดยมีเจ้าหน้าที่ 40 สาขา ประมาณ 200 คนนั้น ล่าสุดได้มีมาตรการระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาความไม่เพียงพอของเจ้าหน้าที่ โดยได้สั่งการให้สำรวจและนำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นที่ช่วยงานได้ให้เข้าไปตรวจตราดูแลความปลอดภัยในการให้บริการเรือโดยสารแล้ว ส่วนมาตรการระยะยาว จะเสนอเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพิ่มอัตราเจ้าหน้าที่อีก 194 อัตรา เพื่อเสริมอัตรากำลังดูแลในท่าเรือสำคัญที่ประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมากทั่วประเทศต่อไป
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า ตามที่ผู้ให้บริการเรือโดยสารขอปรับค่าโดยสารเรือขึ้นเป็นช่วงละ 3 บาท และค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปัจจุบันค่าโดยสารสูงสุด 15 บาท เพราะไม่ได้ปรับค่าโดยสารมานับตั้งแต่ปี 2541 นั้น ล่าสุดกรมการขนส่งทางน้ำฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเก็บข้อมูลทุก ๆ ด้าน เพื่อพิจารณาว่า สมควรจะปรับค่าโดยสารหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปต้นเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาว่า จะอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารขึ้นหรือไม่ต่อไป
อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า ผู้ประกอบการเรือโดยสารระบุว่า นับตั้งแต่ได้ปรับค่าโดยสารเมื่อปี 2541 ต้นทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องขอปรับค่าโดยสาร ซึ่งในส่วนของกรมการขนส่งทางน้ำฯ ไม่ได้พิจารณาปัจจัยที่ผู้ประกอบการเสนอมาแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่จะพิจารณาด้วยว่า หากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเช่น เพิ่มจาก 100,000 คนต่อวัน เป็น 150,000 คนต่อวัน อาจจะทำให้ไม่จำเป็นต้องปรับค่าโดยสาร เพราะแม้ต้นทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น แต่ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นก็ช่วยทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ตาม การจะอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารเรือหรือไม่ จะต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนได้
อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวถึงการเพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ใช้บริการเรือโดยสารต่าง ๆ ว่า ตามที่กรมการขนส่งทางน้ำฯ มีปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ โดยมีเจ้าหน้าที่ 40 สาขา ประมาณ 200 คนนั้น ล่าสุดได้มีมาตรการระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาความไม่เพียงพอของเจ้าหน้าที่ โดยได้สั่งการให้สำรวจและนำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นที่ช่วยงานได้ให้เข้าไปตรวจตราดูแลความปลอดภัยในการให้บริการเรือโดยสารแล้ว ส่วนมาตรการระยะยาว จะเสนอเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพิ่มอัตราเจ้าหน้าที่อีก 194 อัตรา เพื่อเสริมอัตรากำลังดูแลในท่าเรือสำคัญที่ประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมากทั่วประเทศต่อไป