โฟร์โมสต์เปิดตัว “โอเมก 3” นมเปรี้ยวแลคโตบาซิลลัส โอเมก้าทรี ตอดแชร์เจ้าตลาดยาคูลท์ เร่งสร้างความแข็งแกร่งช่องทางขายตรง ใช้สาวโฟร์โมสต์ส่งนมถึงบ้าน1,000 คนไล่บี้ ทุ่มงบ 50 ล้านบาท โหมจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ ปีแรกกวาดแชร์ไม่ต่ำกว่า 10% ดันยอดขายนมพลาสเจอร์ไรซ์โตตัวเลขสองหลัก
นายเอียน เกียริ่ง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท โฟร์โมสต์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นมเปรี้ยวไขมันต่ำ โฟร์โมสต์ โอเมก 3 ลงสู่ตลาดตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการทดลองตลาดในช่วงแรกก่อน และในปีนี้บริษัทจะเริ่มทำตลาดจริงจังมากขึ้น ทั้งนี้การเปิดตัวโฟร์โมสต์ โอเมก 3 เพราะกระแสสุขภาพกำลังมาแรง ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันสภาพการแข่งขันผู้นำตลาดอย่างยาคูลท์ ก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวทางการตลาดมากนัก ทำให้เล็งเห็นช่องว่างทางตลาดและศักยภาพของตลาดโดยตลอด 30 ปี ที่ผ่านมาตลาดดังกล่าวมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี จนกระทั่งปัจจุบันมูลค่าตลาดสูงถึง 3,000 ล้านบาท
สำหรับแผนการทำตลาด บริษัทจะสร้างความแข็งแกร่งทีมสาวขายตรงโฟรโมสต์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่พึ่งพิงในช่องทางดังกล่าวสูง จากปัจจุบันมีสาวขายตรง 800 คน สิ้นปีต้องเป้าจะเพิ่มเป็น 1,000 คน เพื่อให้เข้าตรงถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและลงลึกระดับรากหญ้า โดยบริษัทจะใช้ขนาดบรรจุภัณฑ์ 100 มล.ราคา 6 บาทเจาะในช่องทางขายตรง ขณะที่ขนาด 450 มล.ราคา 21บาท และแพก 6 ขวด ราคา 35 บาท เจาะช่องทางโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ โดยบริษัทวางกลุ่มเป้าหมายสินค้าตัวนี้เป็นกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก
อีกทั้งยังได้เตรียมสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ด้วยการทุ่มงบ 50 ล้านบาท ทำการตลาดแบบครบวงจร ปูพรมด้วยภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ ชุด Exercise ภายใต้แนวคิดและสโลแกน "นมเปรี้ยวโฟร์โมสต์โอเมก 3 จำได้อร่อยดี" พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเข้าร่วมสนับสนุนรายการเกมโชว์สำหรับครอบครัว เช่น รายการ Small talk และการแจกชิมตามซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงานทั่วไป
“พฤติกรรมของผู้บริโภคยังไม่สามารถแยกแยะแลคโตบาซิลลัสได้ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้นเพื่อสร้างความต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า บริษัทจึงได้เพิ่มโอเมกก้า 3 เข้าไป นอกจากนี้การทำตลาดของบริษัทยังเน้นขนาดที่หลากหลายเพื่อสามารถให้สินค้าเจาะช่องทางที่แตกต่างกันไป”
สำหรับแนวโน้มตลาดนมเปรี้ยวมูลค่า 3,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต10% และเชื่อว่าการแข่งขันจะมีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่มูลค่ารวมตลาดนม 8,000-10,000 ล้านบาท โดยตลาดนมพลาสเจอร์ไรซ์เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก และคาดว่าปีนี้จะโต 8-10% จากมูลค่า 1,600 ล้านบาท เนื่องจากนมพลาสเจอร์ไรซ์มีรสชาติและประโยชน์มากกว่านมยูเอชที ส่วนตลาดนมยูเอชทีในปีที่ผ่านมาไม่มีอัตราการเติบโต
นายเกียริ่ง กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนการขึ้นราคาสินค้า แม้ปัจจุบันจะมีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงทำให้สินค้าต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตทั้งพลาสติก และค่าขนส่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งเท่าตัว รวมทั้งทำให้กำไรของบริษัทหายไปพอสมควร อย่างไรก็ตาม หากจะขึ้นราคาสินค้าจะปรับในจำนวนที่น้อยสุดเท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคและให้บริษัทดำเนินธุรกิจต่อไปได้
สำหรับการเปิดตัวโฟร์โมสต์ โอเมก 3 ในปีแรกตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดอย่างน้อย10% เมื่อเทียบกับคู่งแข่งยาคูลท์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งมากกว่า50% บีทาเก้น 30% ซึ่งการเปิดตัวโฟร์โมสต์โอเมก 3 จะช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์นมพลาสเจอร์ไรซ์ของบริษัทมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก จากการมีสัดส่วนรายได้เพียง20% ขณะที่รายได้หลักจะมาจากนมยูเอชที 40% โดยยอดขายนมยูเอชทีปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตมากกว่าตลาด ส่วนนมข้นหวานและข้นจืดมีสัดส่วนรายได้40%