xs
xsm
sm
md
lg

บอนกาแฟเจาะโรงแรม-ร้านอาหารรุกต่างประเทศปูพรมงานบาริสต้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอนกาแฟเผยปีนี้เตรียมเน้นหนักตลาดส่งออกเม็ดกาแฟคั่วบด เตรียมรุกตลาดอเมริกา หลังข้อมูลระบุคนอเมริกันดื่มกาแฟวันละ 10 ถ้วย ปูพรมในงานแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลกที่จะจัดขึ้นเมษายนที่อเมริกาเป็นตัวเบิกโรงสร้างชื่อเสียงให้กาแฟพันธุ์ไทยแจ้งเกิด พร้อมตั้งเป้าสิ้นปียอดขายส่งออกโต 40% ขณะที่ยอดรายได้รวมคาดว่าจะโตน้อยกว่าปีที่แล้ว 10% จากปัจจัยสึนามิและสภาพเศรษฐกิจของประเทศ

นางมาลีรัตน์ ธนาประชุม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตกาแฟชนิดเม็ด,บด และผู้ผลิตเครื่องดื่มสำเร็จรูป รวมถึงจำหน่ายเครื่องทำกาแฟนำเข้า เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะเน้นทำตลาดส่งออกเม็ดกาแฟคั่วบดพันธุ์ไทยมากขึ้นทั้งโรบัสต้าที่ปลูกได้ดีทางภาคใต้และกาแฟอาราบิก้าที่ปลูกในภาคเหนือ โดยเตรียมที่จะไปเปิดตลาดที่อเมริกาผ่านทางงานประกวดชิงแชมป์บาริสต้าโลกครั้งที่ 17 รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กาแฟไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้น อีกทั้งมองว่าเป็นตลาดอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่และมีมูลค่าตลาดมหาศาล ซึ่งอัตราการบริโภคกาแฟของคนอเมริกาจะดื่มกาแฟมากเป็นอันดับ 1 ของโลกหรือวันละ 8-10 แก้ว ในขณะที่คนไทยดื่มเฉลี่ยวันละ 1 แก้วเท่านั้น

โดยที่ผ่านมาบริษัทฯได้ส่งออกสินค้าเม็ดกาแฟคั่วบดไปยังประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรปและตะวันออกกลาง ดังนั้นในปีนี้คาดการณ์ว่ายอดส่งออกจะเพิ่มเป็น 40% จากรายได้ทั้งหมดจากการบุกตลาดอเมริกา ขณะที่ปีที่แล้วมียอด25-30%

ล่าสุดบอนกาแฟยังได้เป็นสปอนเซอร์หลักในการจัดงานแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทย 2005 เพื่อคัดเลือกผู้ชนะคนไทยไปแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลกครั้งที่ 17 ที่ซีแอทเทิล อเมริกา ในวันที่ 15-18 เม.ย. นี้ ซึ่งวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อต้องการให้คนไทยเข้าสู่ตลาดโลกในเรื่องเทคนิคและคุณภาพ รวมถึงอยากให้กาแฟไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลก โดยงบประมาณในการจัดงานบริษัทฯใช้ไปกว่า 1 ล้านบาท

ส่วนการทำตลาดในประเทศไทยปีนี้บริษัทฯ เตรียมเจาะกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารมากขึ้น ซึ่งลูกค้าโรงแรมในไทยเกือบ 80% เป็นลูกค้าของบอนกาแฟ ด้านแผนการขยายสาขาบริการบอนกาแฟ ซึ่งเป็นร้านที่นำเสนอในรูปแบบครบวงจรทั้งการจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ ,กาแฟและการบริการ ในปีนี้บริษัทฯไม่มีแผนเปิดสาขาเพิ่ม โดยปัจจุบันบอนกาแฟมีสาขาในไทย 12 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่,พัทยา,อุดรธานี,โคราช,ภูเก็ต,กระบี่,สมุย เป็นต้น โดยมี 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่,พัทยาและอุดรธานี (กำลังจะเปิด) ที่ภายในร้านจะมีโชว์รูมบิสโทรหรือมุมคอฟฟี่ชอฟไว้เพื่อเป็นร้านต้นแบบให้ลูกค้าได้เห็นและสัมผัสจริง

ด้านสาขาในต่างประเทศปัจจุบันบริษัทฯมี 4 แห่ง ได้แก่ กัมพูชา 2 ที่ ลาว และสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เมืองดูไบ ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนของบอนกาแฟและนักลงทุนในพื้นที่

ผลประกอบการของบริษัทฯปีที่แล้วมียอดรายได้รวม 280 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 20% แบ่งเป็นยอดจากขายเครื่องมือ 50% และกาแฟ 50% นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นยอดรายได้ลูกค้ากลุ่มองค์กรและโรงแรม คิดเป็น 70% ส่วนปีนี้บริษัทฯคาดว่ายอดรายได้จะโตขึ้นน้อยกว่าปีที่แล้ว คือ 10% เนื่องจากเจอปัจจัยสึนามิถล่ม ทำให้สาขาบริการที่เขาหลักได้ผลกระทบ หรือสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่คนเริ่มไม่มั่นใจจึงประหยัดเงินมากขึ้น

สำหรับมูลค่าตลาดนำเข้าเครื่องกาแฟจากต่างประเทศมียอด 50 ล้านบาท โดยประเทศที่ไทยนิยมนำเครื่องเข้ามา เช่น อิตาลี และอเมริกา ในราคาเครื่อง แบ่งเป็นเครื่องทำกาแฟในบ้าน ราคา 900-10,000 บาท และเครื่องชงกาแฟในร้านอาหารราคาเฉลี่ย 50,000 บาท



กำลังโหลดความคิดเห็น