รมว.พลังงานระบุแม้จะต้องการให้ราคาดีเซลสะท้อนราคาตลาด แต่จะขยับราคาน้ำมันดีเซลก็ต่อเมื่อสถานการณ์เหมาะสมแล้วเท่านั้น โดยรัฐบาลจะใช้นโยบายตรึงราคาต่อไป ส่วนการขยับเพดานดีเซลครั้งที่ผ่านมา มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมกล่อมผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าต่อ
นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการที่รัฐบาลประกาศเพิ่มเพดานราคาน้ำมันดีเซลเป็น 15.19 ต่อลิตร ว่าการปรับราคาดีเซลดังกล่าวกระทบต่อต้นทุนสินค้าไม่ถึงร้อยละ 1 และกระทรวงพาณิชย์ก็ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการกักตุนสินค้า เนื่องจากรัฐบาลได้ส่งสัญญาณการปรับเพิ่มเพดานราคามานานแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ มีเวลาในการเตรียมตัวมากพอสมควร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยืนยันว่าแม้ว่าในระยะยาว รัฐบาลต้องการจะให้ราคาน้ำมันดีเซลสะท้อนราคาที่แท้จริงตามกลไกตลาด และขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มขยับสูงขึ้นอีกครั้ง แต่รัฐบาลก็จะยังคงใช้นโยบายการตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไป และจะขยับเพดานราคาน้ำมันในช่วงเวลาที่เห็นว่ามีความเหมาะสมแล้วเท่านั้น
"จากการที่รัฐบาลประเมินตัวเลขของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และกระทรวงการคลังแล้ว เชื่อว่าแม้จะปล่อยให้ราคาน้ำมันดีเซลเคลื่อนไหวไปตามตลาด เศรษฐกิจก็ยังจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.5-6.5 โดยจะพยายามคุมเงินเฟ้อไม่ให้เกินร้อยละ 3 ส่วนการขยับเพดานดีเซลครั้งต่อไป รัฐบาลจะพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยปัจจัยสำคัญคือรัฐบาลยังคงต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
ส่วนการที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงหลังจากรัฐบาลประกาศเพิ่มเพดานราคาน้ำมันดีเซล เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบช่วงสั้นเท่านั้น
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (22 ก.พ.) กระทรวงพาณิชย์จะรายงานผลกระทบจากการขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยผลกระทบดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดทำโมเดลเพื่อแสดงผลว่า หากราคาเบนซินและดีเซลขึ้นไปผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค แต่กระทรวงพาณิชย์ยังคงดูแลราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าในการดำรงชีพ หากน้ำมันดีเซลขึ้นไป 10 สตางค์ต่อลิตร ก็จะดูว่ากระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเรียกผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้ามาหารือร่วมกันสัปดาห์นี้ เพื่อขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไปอีกระยะหนึ่งก่อน เพราะแม้ว่าราคาน้ำมันดีเซล-เบนซินปรับขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจะได้รับผลกระทบและต้องขึ้นทันที เนื่องจากผู้ประกอบการมีสินค้าค้างสตอกเก่าอยู่ ดังนั้น ในการเรียกมาหารือ ก็อาจจะให้ทางผู้ประกอบการช่วยตรึงราคาสินค้าไประยะหนึ่ง แต่กระทรวงพาณิชย์ขอยืนยันจะติดตามดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบมากเกินไป
นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการที่รัฐบาลประกาศเพิ่มเพดานราคาน้ำมันดีเซลเป็น 15.19 ต่อลิตร ว่าการปรับราคาดีเซลดังกล่าวกระทบต่อต้นทุนสินค้าไม่ถึงร้อยละ 1 และกระทรวงพาณิชย์ก็ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการกักตุนสินค้า เนื่องจากรัฐบาลได้ส่งสัญญาณการปรับเพิ่มเพดานราคามานานแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ มีเวลาในการเตรียมตัวมากพอสมควร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยืนยันว่าแม้ว่าในระยะยาว รัฐบาลต้องการจะให้ราคาน้ำมันดีเซลสะท้อนราคาที่แท้จริงตามกลไกตลาด และขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มขยับสูงขึ้นอีกครั้ง แต่รัฐบาลก็จะยังคงใช้นโยบายการตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไป และจะขยับเพดานราคาน้ำมันในช่วงเวลาที่เห็นว่ามีความเหมาะสมแล้วเท่านั้น
"จากการที่รัฐบาลประเมินตัวเลขของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และกระทรวงการคลังแล้ว เชื่อว่าแม้จะปล่อยให้ราคาน้ำมันดีเซลเคลื่อนไหวไปตามตลาด เศรษฐกิจก็ยังจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.5-6.5 โดยจะพยายามคุมเงินเฟ้อไม่ให้เกินร้อยละ 3 ส่วนการขยับเพดานดีเซลครั้งต่อไป รัฐบาลจะพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยปัจจัยสำคัญคือรัฐบาลยังคงต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
ส่วนการที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงหลังจากรัฐบาลประกาศเพิ่มเพดานราคาน้ำมันดีเซล เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบช่วงสั้นเท่านั้น
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (22 ก.พ.) กระทรวงพาณิชย์จะรายงานผลกระทบจากการขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยผลกระทบดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดทำโมเดลเพื่อแสดงผลว่า หากราคาเบนซินและดีเซลขึ้นไปผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค แต่กระทรวงพาณิชย์ยังคงดูแลราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าในการดำรงชีพ หากน้ำมันดีเซลขึ้นไป 10 สตางค์ต่อลิตร ก็จะดูว่ากระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเรียกผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้ามาหารือร่วมกันสัปดาห์นี้ เพื่อขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไปอีกระยะหนึ่งก่อน เพราะแม้ว่าราคาน้ำมันดีเซล-เบนซินปรับขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจะได้รับผลกระทบและต้องขึ้นทันที เนื่องจากผู้ประกอบการมีสินค้าค้างสตอกเก่าอยู่ ดังนั้น ในการเรียกมาหารือ ก็อาจจะให้ทางผู้ประกอบการช่วยตรึงราคาสินค้าไประยะหนึ่ง แต่กระทรวงพาณิชย์ขอยืนยันจะติดตามดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบมากเกินไป