xs
xsm
sm
md
lg

คมนาคมเร่งผลักดันโครงการแหลมผักเบี้ย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทรวงคมนาคมประสานเดินหน้าโครงการเส้นทางลัดสู่ภาคใต้ (แหลมผักเบี้ย-ชะอำ) โดย สนข.เตรียมเข้าชี้แจงข้อสงสัยของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมอีก 2 ประเด็น ทั้งผลกระทบต่อกระแสน้ำของโครงการกัดเซาะชายฝั่งหลังโครงการเกิดขึ้น ขณะที่กรมทางหลวงจะนำคณะสื่อมวลชนพิสูจน์เทคโนโลยีการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลถึงประเทศบาห์เรน

นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ความคืบหน้าของการก่อสร้างถนนเลียบอ่าวเส้นทางลัดสู่ภาคใต้ (แหลมผักเบี้ย-ชะอำ) ในส่วนของการออกแบบรายละเอียด หรือดีเทลดีไซน์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนข้างหน้า โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งหมดพร้อมจะเดินหน้าก่อสร้างโครงการทันทีเมื่อการศึกษาผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สำหรับกระแสการคัดค้านโครงการขององค์กรเอกชนและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีการโต้แย้งการก่อสร้างในโครงการใน 7 ประเด็น และขอให้ สนข.ทำการชี้แจงประกอบด้วยรายละเอียดของการออกแบบและเทคนิคการก่อสร้าง ผลกระทบที่มีต่อด้านสมุทรศาสตร์ และการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ระบบนิเวศวิทยาที่มีต่อสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ และกระแสน้ำทั้งหมด ผลกระทบที่มีต่อคุณภาพน้ำทะเล ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และผลกระทบที่มีต่อมวลชน ผลกระทบที่มีต่อแหล่งประวัติศาสตร์ รวมทั้งมาตรการป้องกัน ระบบติดตามตรวจสอบสิ่งแวดล้อมโครงการภายหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งทั้งหมด สนข. ได้ชี้แจงกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจนเป็นที่พอใจเกือบทุกประเด็นแล้ว

นายคำรบลักขิ์ กล่าวว่า มีข้อสงสัยเพียง 2 ข้อที่คณะกรรมการขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ระบบกระแสน้ำ ซึ่งคณะกรรมการขอให้ศึกษาครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้างไม่ต่ำกว่า 300 เมตรนับออกไปจากชายฝั่งทะเล ซึ่งประเด็นดังกล่าว สนข.เห็นว่า เป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ได้อยู่ในทีโออาร์ที่ได้มีการว่าจ้างนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการศึกษา ก่อนหน้านี้ และเป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็น รวมถึงปัญหาผลกระทบของโครงการที่จะก่อให้เกิดภาวะการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ซึ่ง สนข.เห็นว่าประเด็นดังกล่าวแม้จะไม่มีโครงการเกิดขึ้น ปัญหาการกัดเซาะของชายฝั่งทะเลก็มีอยู่แล้วและได้มีการจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมอยู่เป็นประจำทุกปี ทั้ง 2 ประเด็นจึงเป็นปัญหาที่สามารถจัดการได้ โดย สนข.จะเข้าชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวให้กับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมรับทราบในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

“ยืนยันจะเร่งรัดผลักดันโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นโครงการที่มีประโยชน์ทั้งแง่ทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และที่สำคัญในเรื่องความมั่นคงของประเทศที่จะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมภาคใต้เข้ากับภูมิภาคอื่น ๆ” นายคำรบลักขิ์ กล่าว

นายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างนำคณะสื่อมวลชนเดินทางสู่ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 21-25 มกราคม เพื่อดูงานมาตรฐานการก่อสร้างสะพานที่ตัดข้ามระหว่างชายฝั่งทะเล เนื่องจากประเทศบาห์เรนมีภูมิประเทศเป็นเกาะแก่งถึง 33 เกาะ และมีความก้าวหน้าในการพัฒนาเส้นทาง เช่น สะพาน King Fahad Causeway ซึ่งเปิดใช้งานตั้งแต่ ค.ศ.1986 ระยะทางยาว 25 กิโลเมตร เป็นถนน 4 เลนเชื่อมระหว่างประเทศบาห์เรนและซาอุดีอาระเบีย และถือเป็นสะพานที่มีค่าก่อสร้างแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเทคโนโลยีในการก่อสร้างได้รับการยืนยันว่ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก แต่สะพานเหล่านี้ได้สร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของบาห์เรนจนเป็นประเทศชั้นนำในตะวันออกกลาง

นายเทิดศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า โครงการดังกล่าวมีลักษณะใกล้เคียงกับโครงการแหลมผักเบี้ย-ชะอำของไทย ซึ่งกรมทางหลวงจะนำไปเป็นต้นแบบในเรื่องเทคโนโลยีในการก่อสร้าง ทั้งนี้ กรมทางหลวงเห็นว่าโครงการแหลมผักเบี้ยถือเป็น 1 เส้นทางยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญในการพัฒนาระบบโครงข่ายขนส่ง (โลจิสติกส์) ที่จะช่วยลดต้นทุนของประเทศและเชื่อมภาคใต้เข้ากับภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งมีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น