ริชมอนเด้ โหมโรงเหล้าทุกเซกเมนต์ เปิดคัมภีร์ดึงผู้บริโภคสัมผัสกับประสบการณ์จริง โกยยอดขายโกลด์ เลเบิล สิ้นปี48โต100% พร้อมปลุกเรด เลเบิล สร้างเทรนด์การดื่มผสมมิกเซอร์อิงชาเขียว หวังสร้างความต่างจากคู่แข่ง มั่นใจเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ในช่วงไตรมาสสี่โกยยอดขาย50%
แหล่งข่าวจาก บริษัท ริชมอนเด้ (บางกอก) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายวิสกี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็กเลเบิล,และจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิล เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทวางกลยุทธ์การทำตลาด โดยเน้นให้ผู้บริโภคสัมผัสกับประสบการณ์จริง การสร้างบรรยากาศที่ให้ผู้บริโภคสัมผัสวิธีการดื่มในแบบที่มีความพิเศษ ด้วยการสร้างพฤติกรรมการดื่มแบบ Perfect Serve ซึ่งได้แก่ การเสิร์ฟแบบแช่เย็นจัด ให้กับกลุ่มสินค้าวิสกี้ ระดับซูเปอร์ ดีลักซ์ ได้แก่ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล,จอห์นนี่วอล์กเกอร์ บลู เลเบิล และจอน์หนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิล ซึ่งคาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันยอดขายสิ้นปี 48 โดยเฉพาะโกลด์เลเบิลโต100%
"กลยุทธ์การดึงกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามามีประสบการณ์ตรงกับแบรนด์ จะส่งผลต่อแผนระยะยาวคือช่วยกระตุ้นยอดขายได้มาก เพราะการทำโฆษณาเพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถกระตุ้นยอดขายได้ สิ่งที่ได้จากการทำโฆษณาเป็นเพียงการสร้างการรับรู้ให้กลุ่มเป้าหมายเท่านั้น"
และล่าสุดบริษัทได้เตรียมเปิดตัว"Johnnie Walker Red Label with Green Tea" แนะนำวิธีการดื่มเรด เลเบิล ซึ่งเป็นวิสกี้ระดับพรีเมียมด้วยการผสมกับชาเขียว เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายสัมผัสกับเทรนด์การดื่มใหม่ล่าสุดของการผสมมิกเซอร์ ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วทวีปเอเชีย ทั้งนี้เพื่อสร้างความแตกต่าง และถือเป็นการต้อนรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นที่ ไบเทค บางนา วันที่ 21 ธันวาคม 2547
แนวโน้มตลาดวิสกี้นำเข้าโดยรวม ในปีหน้ามีอัตราการเติบโต10% โดยมองว่าผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะหันมาให้ความสำคัญกับการทำบีโลว์เดอะไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะการดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามามีประสบการณ์ตรง หรือการสร้างบรรยากาศที่ให้ผู้บริโภคสัมผัสวิธีการดื่มในแบบที่มีความพิเศษมากขึ้น เนื่องจากภาครัฐมีมาตรการที่เข้มงวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทมากขึ้น
"มาตรการที่เข้มงวดของภาครัฐ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่มากนัก ซึ่งเป็นช่วงที่คนไทยออกมาเฉลิมฉลองส่งท้ายปี อีกทั้งยังมองว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมเลือกที่จะดื่มผ่านช่องทางออนพรีมิสหรือสถานบันเทิง แต่ล่าสุดได้เปลี่ยนมาเป็นการซื้อเครื่องดื่ม ผ่านช่องทางออฟพรีมิสหรือร้านค้าปลีกรายใหญ่แล้วนำไปดื่มที่บ้านกันมากขึ้น"
แนวโน้มการแข่งขันช่วงไตรมาสสี่ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะใช้กลยุทธ์ลด แลก แจก แถม โดยเฉพาะการแจกของพรีเมียมผ่านช่องทางออฟพรีมิสมากระตุ้นยอดขาย ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าเฉพาะในช่วงไตรมาสสี่คาดว่าบริษัทจะมียอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โต50%
สำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิล มีอัตราการเติบโต 100% ส่วนทั้งปีคาดว่าโกลด์ เลเบิล จะมีอัตราการเติบโตได้100%ในสิ้นปี 2548 เนื่องจากการใช้กลยุทธ์ดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามามีประสบการณ์ตรง และคาดว่าภายใน1 ปี จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มจาก10% เป็น 15-20% จากมูลค่าตลาด 100 ล้านบาท
แหล่งข่าวจาก บริษัท ริชมอนเด้ (บางกอก) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายวิสกี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็กเลเบิล,และจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิล เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทวางกลยุทธ์การทำตลาด โดยเน้นให้ผู้บริโภคสัมผัสกับประสบการณ์จริง การสร้างบรรยากาศที่ให้ผู้บริโภคสัมผัสวิธีการดื่มในแบบที่มีความพิเศษ ด้วยการสร้างพฤติกรรมการดื่มแบบ Perfect Serve ซึ่งได้แก่ การเสิร์ฟแบบแช่เย็นจัด ให้กับกลุ่มสินค้าวิสกี้ ระดับซูเปอร์ ดีลักซ์ ได้แก่ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล,จอห์นนี่วอล์กเกอร์ บลู เลเบิล และจอน์หนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิล ซึ่งคาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันยอดขายสิ้นปี 48 โดยเฉพาะโกลด์เลเบิลโต100%
"กลยุทธ์การดึงกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามามีประสบการณ์ตรงกับแบรนด์ จะส่งผลต่อแผนระยะยาวคือช่วยกระตุ้นยอดขายได้มาก เพราะการทำโฆษณาเพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถกระตุ้นยอดขายได้ สิ่งที่ได้จากการทำโฆษณาเป็นเพียงการสร้างการรับรู้ให้กลุ่มเป้าหมายเท่านั้น"
และล่าสุดบริษัทได้เตรียมเปิดตัว"Johnnie Walker Red Label with Green Tea" แนะนำวิธีการดื่มเรด เลเบิล ซึ่งเป็นวิสกี้ระดับพรีเมียมด้วยการผสมกับชาเขียว เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายสัมผัสกับเทรนด์การดื่มใหม่ล่าสุดของการผสมมิกเซอร์ ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วทวีปเอเชีย ทั้งนี้เพื่อสร้างความแตกต่าง และถือเป็นการต้อนรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นที่ ไบเทค บางนา วันที่ 21 ธันวาคม 2547
แนวโน้มตลาดวิสกี้นำเข้าโดยรวม ในปีหน้ามีอัตราการเติบโต10% โดยมองว่าผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะหันมาให้ความสำคัญกับการทำบีโลว์เดอะไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะการดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามามีประสบการณ์ตรง หรือการสร้างบรรยากาศที่ให้ผู้บริโภคสัมผัสวิธีการดื่มในแบบที่มีความพิเศษมากขึ้น เนื่องจากภาครัฐมีมาตรการที่เข้มงวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทมากขึ้น
"มาตรการที่เข้มงวดของภาครัฐ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่มากนัก ซึ่งเป็นช่วงที่คนไทยออกมาเฉลิมฉลองส่งท้ายปี อีกทั้งยังมองว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมเลือกที่จะดื่มผ่านช่องทางออนพรีมิสหรือสถานบันเทิง แต่ล่าสุดได้เปลี่ยนมาเป็นการซื้อเครื่องดื่ม ผ่านช่องทางออฟพรีมิสหรือร้านค้าปลีกรายใหญ่แล้วนำไปดื่มที่บ้านกันมากขึ้น"
แนวโน้มการแข่งขันช่วงไตรมาสสี่ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะใช้กลยุทธ์ลด แลก แจก แถม โดยเฉพาะการแจกของพรีเมียมผ่านช่องทางออฟพรีมิสมากระตุ้นยอดขาย ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าเฉพาะในช่วงไตรมาสสี่คาดว่าบริษัทจะมียอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โต50%
สำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิล มีอัตราการเติบโต 100% ส่วนทั้งปีคาดว่าโกลด์ เลเบิล จะมีอัตราการเติบโตได้100%ในสิ้นปี 2548 เนื่องจากการใช้กลยุทธ์ดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามามีประสบการณ์ตรง และคาดว่าภายใน1 ปี จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มจาก10% เป็น 15-20% จากมูลค่าตลาด 100 ล้านบาท