วีจีไอ รับอานิสงส์พันธมิตร ฮ่องกง สิงคโปร์ จากกลุ่ม บีทีเอส ตะลุยขยายงานเพิ่ม ทั้งรับจัดงานแต่งงาน งานเอ็กซิบิชั่น ,คอนเสิร์ต และงานแสดงโชว์ต่างๆ ชูจุดขายความคิดที่แตกต่างหนีคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน ด้านธุรกิจจัดอีเว้นต์ปีหน้าโกยลูกค้าอีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย ส่งผลรายได้โดยรวมโตก้าวกระโดดมากกว่า 200% หรือมากกว่า 80 ล้านบาท จากปีแรกคาดประเดิมรายได้ที่ 35 ล้านบาท
นายธนารักษ์ อุ่นเรือน กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด ดำเนินธุรกิจออแกไนซ์ ด้านการจัดอีเว้นต์ เปิดเผยแผนธุรกิจกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ในปีหน้าเตรียมขยายงานเพิ่ม ได้แก่ งานเพอร์เซอนัล อีเว้น เช่น งานแต่งงาน , การจัดงานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ระดับนานาชาติ , งานจัดคอนเสิร์ท และงานแสดงโชว์ต่างๆ นอกจากนั้นยังมีแนวคิดที่จะเข้าสู่ธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ในรูปแบบสาระบันเทิง ซึ่งอาจจะเป็นแผนต่อเนื่องไปในปี 2549
สำหรับงานเอ็กซิบิชั่น และงานแสดงโชว์ จะร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ล่าสุดอยู่ระหว่างการคิดรูปแบบของงานเอ็กซิบิชั่น โดยจะเชิญผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เน้นโซนเอเชีย มาร่วมออกงาน ขณะที่งานแสดงโชว์ จะจับมือกับพันธมิตร เพื่อนำการแสดงที่ไม่เคยจัดที่ประเทศไทยมาก่อน รูปแบบเป็นงานเอาท์ดอร์ วางแผนจัดช่วงปลายปีหน้า ส่วนพื้นที่จัดงานใช้ที่อิมแพคเมืองทองธานี ซึ่งเป็นพันธมิตรกันอีกเช่นกัน
ในส่วนของงานเพอร์เซอนัล อีเว้นต์เน้นรับออแกไนซ์ให้กับงานแต่งงาน และงานฉลองต่างๆ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า แต่ช่วงนี้ก็มีรับงานไว้บ้างแล้ว ซึ่งมองว่าความเป็นไลฟสไตล์ของชีวิตคนในปัจจุบัน จะเป็นพื้นฐานในธุรกิจนี้มีช่องทางของการเติบโต โดยบริษัทจะรับงานตั้งแต่เป็นที่ปรึกษา ออกแบบ จัดสถานที่ จัดเลี้ยง และจัดหาของชำร่วย ลูกค้าสามารถใช้บริการแบบครบวงจร หรือเลือกใช้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ลูกค้าเป้าหมาย มีทั้งคนไทย และต่างชาติ ซึ่งในส่วนของตลาดลูกค้าต่างชาติ จะให้บริการเป็นแพคเกจตั้งแต่ จัดงานไปถึงฮันนีมูน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร ที่อยู่ในธุรกิจเว็ดดิ้งแพลนเนอร์ ที่ฮ่องกง โดยลูกค้าเริ่มต้นอยู่ในโซนเอเชีย เช่น สิงคโปร์ และฮ่องกง ตั้งเป้าปีแรก มีรายได้จากธุรกิจนี้ราว 15-20 ล้านบาท
“จุดขายที่เรา ให้บริการกับลูกค้าต่างชาติ อยู่ที่บริการ และราคา เพราะได้ศึกษาแล้วว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องการจัดเลี้ยงในประเทศไทยถูกกว่า ทั้งฮ่องกง และสิงคโปร์ ขณะเดียวกับ เจ้าบ่าว เจ้าสาว และญาติ ก็ได้เดินทางท่องเที่ยว และอยู่ต่อในช่วงฮันนีมูน สอดคล้องกับ นโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จะขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวในตลาดนี้อีกเช่นกัน”
นายธนารักษ์ กล่าวถึงธุรกิจ อีเว้นต์ ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ว่า จากการเติบโตของกิจกรรมด้านบีโลวเดอะไลน์ จะส่งผลดีกับการรับงานของบริษัท เพราะเราถนัดงานด้านแอคทิวิตี้ ออน สเตท โดยเฉพาะงานเปิดตัวสินค้า การออกโปรดักส์ใหม่ๆ งานแกรนด์โอเพ่นนิ่ง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ บริษัทเป็นเจ้าของพื้นที่การจัดอีเว้นบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนคือ คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ใช้ชีวิตแบบคนเมือง ซึ่งจะตรงกับสินค้าของลูกค้า และปีแรกของบริษัท มีลูกค้าประจำแล้วประมาณ 10 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าผู้เช่าพื้นที่ขายของที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และกลุ่มลูกค้าสื่อสารและไอที ได้แก่ ดีแทค เจมาร์ท โนเกีย เป็นต้น เนื่องจากตนเองเคยทำงานที่เจมาร์ท จึงมีคอนเนคชั่นกับลูกค้าสายไอทีระดับหนึ่ง สำหรับปีหน้าตั้งเป้าได้ลูกค้าเพิ่มอีก 10 ราย กลุ่มสินค้าที่สนใจหาเพิ่มเติมคือกลุ่มคอนซูเมอร์
อย่างไรก็ตามบริษัท วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น ฯ เริ่มดำเนินงานเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2547 คาดถึงสิ้นปีมีรายได้ประมาณ 35 ล้านบาท และปีหน้าตั้งเป้ารายได้ที่ 50-60 ล้านบาท ไม่รวมธุรกิจรับจัดงานแต่งงานและธุรกิจอื่นๆ และจากการขยายธุรกิจ และรับงานเพิ่มมากขึ้น บริษัทเตรียมเพิ่มกำลังคนด้าน ครีเอทีฟ และโปรดักชั่น นอกจากนั้นในเดือนมกราคม 2548 จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5 ล้านบาท จากปัจจุบัน 2 ล้านบาท
“งานของ วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น มีจุดขายที่ความคิดโดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่ง ต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ รวมถึงต้องเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายอย่างแท้จริง ซึ่งบริษัทจะใช้นโยบายนี้กับทุกธุรกิจที่เราจะทำขึ้นในปีหน้า”
บริษัท วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด แตกออกมาจาก บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ของนายกวิน กาญจนภาส ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่โฆษณาทั้งหมดของ สถานีและรถไฟฟ้า บีทีเอส ซึ่งการแตกบริษัทออกมาเป็นการใช้เงินลงทุนส่วนตัวของ นายกวิน โดยเข้ามาถือหุ้น 40 % ของ วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น ส่วนนาย ธนารักษ์ อุ่นเรือง ถือหุ้นในสัดส่วน 30 % และอีก 30 % เป็นของผู้ถือหุ้นรายย่อย ทั้งนี้วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท แต่รูปแบบการดำเนินธุรกิจ ยังคงใช้พันธมิตร จากประเทศ ฮ่องกง และสิงคโปร์เป็นหลัก เพราะร่วมงานกันมาตั้งแต่การลงทุนในบีทีเอส
นายธนารักษ์ อุ่นเรือน กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด ดำเนินธุรกิจออแกไนซ์ ด้านการจัดอีเว้นต์ เปิดเผยแผนธุรกิจกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ในปีหน้าเตรียมขยายงานเพิ่ม ได้แก่ งานเพอร์เซอนัล อีเว้น เช่น งานแต่งงาน , การจัดงานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ระดับนานาชาติ , งานจัดคอนเสิร์ท และงานแสดงโชว์ต่างๆ นอกจากนั้นยังมีแนวคิดที่จะเข้าสู่ธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ในรูปแบบสาระบันเทิง ซึ่งอาจจะเป็นแผนต่อเนื่องไปในปี 2549
สำหรับงานเอ็กซิบิชั่น และงานแสดงโชว์ จะร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ล่าสุดอยู่ระหว่างการคิดรูปแบบของงานเอ็กซิบิชั่น โดยจะเชิญผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เน้นโซนเอเชีย มาร่วมออกงาน ขณะที่งานแสดงโชว์ จะจับมือกับพันธมิตร เพื่อนำการแสดงที่ไม่เคยจัดที่ประเทศไทยมาก่อน รูปแบบเป็นงานเอาท์ดอร์ วางแผนจัดช่วงปลายปีหน้า ส่วนพื้นที่จัดงานใช้ที่อิมแพคเมืองทองธานี ซึ่งเป็นพันธมิตรกันอีกเช่นกัน
ในส่วนของงานเพอร์เซอนัล อีเว้นต์เน้นรับออแกไนซ์ให้กับงานแต่งงาน และงานฉลองต่างๆ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า แต่ช่วงนี้ก็มีรับงานไว้บ้างแล้ว ซึ่งมองว่าความเป็นไลฟสไตล์ของชีวิตคนในปัจจุบัน จะเป็นพื้นฐานในธุรกิจนี้มีช่องทางของการเติบโต โดยบริษัทจะรับงานตั้งแต่เป็นที่ปรึกษา ออกแบบ จัดสถานที่ จัดเลี้ยง และจัดหาของชำร่วย ลูกค้าสามารถใช้บริการแบบครบวงจร หรือเลือกใช้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ลูกค้าเป้าหมาย มีทั้งคนไทย และต่างชาติ ซึ่งในส่วนของตลาดลูกค้าต่างชาติ จะให้บริการเป็นแพคเกจตั้งแต่ จัดงานไปถึงฮันนีมูน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร ที่อยู่ในธุรกิจเว็ดดิ้งแพลนเนอร์ ที่ฮ่องกง โดยลูกค้าเริ่มต้นอยู่ในโซนเอเชีย เช่น สิงคโปร์ และฮ่องกง ตั้งเป้าปีแรก มีรายได้จากธุรกิจนี้ราว 15-20 ล้านบาท
“จุดขายที่เรา ให้บริการกับลูกค้าต่างชาติ อยู่ที่บริการ และราคา เพราะได้ศึกษาแล้วว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องการจัดเลี้ยงในประเทศไทยถูกกว่า ทั้งฮ่องกง และสิงคโปร์ ขณะเดียวกับ เจ้าบ่าว เจ้าสาว และญาติ ก็ได้เดินทางท่องเที่ยว และอยู่ต่อในช่วงฮันนีมูน สอดคล้องกับ นโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จะขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวในตลาดนี้อีกเช่นกัน”
นายธนารักษ์ กล่าวถึงธุรกิจ อีเว้นต์ ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ว่า จากการเติบโตของกิจกรรมด้านบีโลวเดอะไลน์ จะส่งผลดีกับการรับงานของบริษัท เพราะเราถนัดงานด้านแอคทิวิตี้ ออน สเตท โดยเฉพาะงานเปิดตัวสินค้า การออกโปรดักส์ใหม่ๆ งานแกรนด์โอเพ่นนิ่ง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ บริษัทเป็นเจ้าของพื้นที่การจัดอีเว้นบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนคือ คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ใช้ชีวิตแบบคนเมือง ซึ่งจะตรงกับสินค้าของลูกค้า และปีแรกของบริษัท มีลูกค้าประจำแล้วประมาณ 10 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าผู้เช่าพื้นที่ขายของที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และกลุ่มลูกค้าสื่อสารและไอที ได้แก่ ดีแทค เจมาร์ท โนเกีย เป็นต้น เนื่องจากตนเองเคยทำงานที่เจมาร์ท จึงมีคอนเนคชั่นกับลูกค้าสายไอทีระดับหนึ่ง สำหรับปีหน้าตั้งเป้าได้ลูกค้าเพิ่มอีก 10 ราย กลุ่มสินค้าที่สนใจหาเพิ่มเติมคือกลุ่มคอนซูเมอร์
อย่างไรก็ตามบริษัท วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น ฯ เริ่มดำเนินงานเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2547 คาดถึงสิ้นปีมีรายได้ประมาณ 35 ล้านบาท และปีหน้าตั้งเป้ารายได้ที่ 50-60 ล้านบาท ไม่รวมธุรกิจรับจัดงานแต่งงานและธุรกิจอื่นๆ และจากการขยายธุรกิจ และรับงานเพิ่มมากขึ้น บริษัทเตรียมเพิ่มกำลังคนด้าน ครีเอทีฟ และโปรดักชั่น นอกจากนั้นในเดือนมกราคม 2548 จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5 ล้านบาท จากปัจจุบัน 2 ล้านบาท
“งานของ วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น มีจุดขายที่ความคิดโดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่ง ต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ รวมถึงต้องเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายอย่างแท้จริง ซึ่งบริษัทจะใช้นโยบายนี้กับทุกธุรกิจที่เราจะทำขึ้นในปีหน้า”
บริษัท วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด แตกออกมาจาก บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ของนายกวิน กาญจนภาส ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่โฆษณาทั้งหมดของ สถานีและรถไฟฟ้า บีทีเอส ซึ่งการแตกบริษัทออกมาเป็นการใช้เงินลงทุนส่วนตัวของ นายกวิน โดยเข้ามาถือหุ้น 40 % ของ วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น ส่วนนาย ธนารักษ์ อุ่นเรือง ถือหุ้นในสัดส่วน 30 % และอีก 30 % เป็นของผู้ถือหุ้นรายย่อย ทั้งนี้วีจีไอ เอ็กซิบิชั่น ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท แต่รูปแบบการดำเนินธุรกิจ ยังคงใช้พันธมิตร จากประเทศ ฮ่องกง และสิงคโปร์เป็นหลัก เพราะร่วมงานกันมาตั้งแต่การลงทุนในบีทีเอส