ช่อง 11 เกาะกระแสข่าวเช้าฮิต จับมือทราฟฟิก โดดร่วมวง เปิดรายการ “ทันข่าวเช้านี้” หวังโชว์ศักยภาพด้านสถานีส่งสัญญาณ และหน่วยงานข่าว ที่มีกระจายและครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศ นำเสนอข่าวความคลื่อนไหวในเหตุการณ์สำคัญ ได้ทุกจังหวัด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เผย งานนี้เป็นก้าวแรกในการปรับโครงสร้างการทำงานของ ช่อง 11 แบบบูรณาการ ตั้งเป้าปีหน้าเพิ่มสัดส่วนรายการข่าวเป็น 40 % ของรายการทั้งหมด
นายดุษฎี สินเจิมสิริ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า กรมประชาสัมพันธ์มีแผนการปรับปรุงรายการข่าว และรายการสาระต่างๆ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11(สทท.11) โดยจะเริ่มปรับปรุงตั้งแต่รูปแบบรายการ เนื้อหารายการ และวิธีนำเสนอรายการ ให้มีความทันสมัย ตอบสนองความต้องการของประชาชน และใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น
เนื่องจากปัจจุบันเกือบทุกสถานีโทรทัศน์ได้มีการปรับปรุงรายการข่าวให้มีรูปแบบใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้จะสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ สทท.11 มีการพัฒนาพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพ ในการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ศักยภาพของ สทท.11ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ดังนั้นแนวคิดลำดับแรกที่ สทท.11 จะดำเนินการ คือขยายเวลาข่าวให้มีมากขึ้น ซึ่งส่วนที่จะเพิ่มขึ้นมาได้แก่ข่าวครึ่งชั่วโมง ล่าสุดในส่วนของข่าวเช้า ได้จับมือกับ บริษัท ดรีม มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ทราฟฟิกคอร์เนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ร่วมผลิตรายการ “ทันข่าวเช้านี้” ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.30-08.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไป
รูปแบบรายการจะนำเสนอในลักษณะของรายการสนทนาข่าวโดยทีมงานมืออาชีพ เนื้อหาสาระเบาๆ ใช้ภาษาง่ายๆแบบเป็นกันเอง นำเสนอประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นในวันนั้น รวมถึงความเคลื่อนไหวและความคืบหน้าของข่าวที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 8 ช่วง คือ 1.ข่าวเด่นประจำวัน/ข่าวในประเทศ 2.ข่าวในประเทศ 3.สัมภาษณ์บุคคลในข่าว 4.ข่าวชาวบ้าน รายงานพิเศษและข่าวต่างประเทศ 5.ข่าวต่างประเทศ 6.ข่าวหุ้น และข่าวธุรกิจ 7.ข่าวกีฬา และ 8. ข่าวกีฬาและวิเคราะห์ฟุตบอล
สำหรับการปรับรายการข่าวครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ของความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน ในการนำเสนอข่าวสาร และในอนาคตจะต้องมีการร่วมมือกันต่อๆไป ในรูปแบบรายการอื่นๆ จุดแข็งที่ สทท.11 จะนำมาใช้ในการนำเสนอข่าว คือ การมีหน่วยงานข่าวทั้ง 75 จังหวัดทั่วประเทศไม่นับกรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังมีวิทยุกระจายเสียง ที่ส่งสัญญาณได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ดังนั้นข่าวที่นำเสนอ จะมีทั้งเหตุการณ์ของประเทศโดยรวม และเหตุการณ์สำคัญในแต่ละจังหวัด ทำให้ครอบคลุมได้ทุกกลุ่มผู้ชมและผู้ฟังทั่วประเทศ สำหรับข่าวต่างประเทศ จะเน้นข่าวที่น่าสนใจ ถือเป็นการปรับโครงสร้างการทำงานของ สทท.11 แบบบูรณาการ โดยหลังจากนี้ สัดส่วนรายการข่าวของ สทท.11 จะเพิ่มขึ้นอีก 25% ภายในปี 2548 หรือมีสัดส่วนรายการข่าวเป็น 40% ของรายการทั้งหมด
“ในรายการทันข่าวเช้านี้ จะมีช่วงของข่าวชาวบ้าน โดยเปิดตู้ ปณ.คลายทุกข์ รับเรื่องร้องเรียนจากความเดือนร้อนของประชาชน รวมถึงกิจกรรมชุมชน ทั่วประเทศ เป็นช่วง ไทยแลนด์รีพอร์ต ตรงนี้เชื่อว่าผู้ชมต่างจังหวัดจะให้ความสนใจเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว ขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่น ก็ยินดี ให้ข้อมูลความเคลื่อนไหวในท้องถิ่นของตน ออกสู่สายตาคนทั่วประเทศ ”
อย่างไรก็ตาม นโยบายการนำเสนอข่าวโดยรวมของ สทท. 11 ยังเน้นนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลเพื่อต้องการสร้างความเข้าใจระหว่างรัฐกับประชาชน ในทุกกลุ่ม เนื่องจากที่ผ่านมา มีการปฏิรูปการเมือง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาลในหลายส่วน จึงต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมืองตามหลักประชาธิปไตยด้วย สำหรับเงินงบประมาณที่จะใช้ ส่วนหนึ่งสทท.11ได้รับจัดสรรมาจากเงินงบประมาณ และส่วนหนึ่งได้มาจากการช่วยเหลือของกระทรวง ต่างๆกว่า 10 แห่ง รวมประมาณ 80 ล้านบาท ต่อปี แลกกับการนำเสนอกิจกรรมของแต่ละกระทรวง
นายดุษฎี สินเจิมสิริ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า กรมประชาสัมพันธ์มีแผนการปรับปรุงรายการข่าว และรายการสาระต่างๆ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11(สทท.11) โดยจะเริ่มปรับปรุงตั้งแต่รูปแบบรายการ เนื้อหารายการ และวิธีนำเสนอรายการ ให้มีความทันสมัย ตอบสนองความต้องการของประชาชน และใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น
เนื่องจากปัจจุบันเกือบทุกสถานีโทรทัศน์ได้มีการปรับปรุงรายการข่าวให้มีรูปแบบใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้จะสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ สทท.11 มีการพัฒนาพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพ ในการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ศักยภาพของ สทท.11ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ดังนั้นแนวคิดลำดับแรกที่ สทท.11 จะดำเนินการ คือขยายเวลาข่าวให้มีมากขึ้น ซึ่งส่วนที่จะเพิ่มขึ้นมาได้แก่ข่าวครึ่งชั่วโมง ล่าสุดในส่วนของข่าวเช้า ได้จับมือกับ บริษัท ดรีม มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ทราฟฟิกคอร์เนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ร่วมผลิตรายการ “ทันข่าวเช้านี้” ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.30-08.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไป
รูปแบบรายการจะนำเสนอในลักษณะของรายการสนทนาข่าวโดยทีมงานมืออาชีพ เนื้อหาสาระเบาๆ ใช้ภาษาง่ายๆแบบเป็นกันเอง นำเสนอประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นในวันนั้น รวมถึงความเคลื่อนไหวและความคืบหน้าของข่าวที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 8 ช่วง คือ 1.ข่าวเด่นประจำวัน/ข่าวในประเทศ 2.ข่าวในประเทศ 3.สัมภาษณ์บุคคลในข่าว 4.ข่าวชาวบ้าน รายงานพิเศษและข่าวต่างประเทศ 5.ข่าวต่างประเทศ 6.ข่าวหุ้น และข่าวธุรกิจ 7.ข่าวกีฬา และ 8. ข่าวกีฬาและวิเคราะห์ฟุตบอล
สำหรับการปรับรายการข่าวครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ของความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน ในการนำเสนอข่าวสาร และในอนาคตจะต้องมีการร่วมมือกันต่อๆไป ในรูปแบบรายการอื่นๆ จุดแข็งที่ สทท.11 จะนำมาใช้ในการนำเสนอข่าว คือ การมีหน่วยงานข่าวทั้ง 75 จังหวัดทั่วประเทศไม่นับกรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังมีวิทยุกระจายเสียง ที่ส่งสัญญาณได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ดังนั้นข่าวที่นำเสนอ จะมีทั้งเหตุการณ์ของประเทศโดยรวม และเหตุการณ์สำคัญในแต่ละจังหวัด ทำให้ครอบคลุมได้ทุกกลุ่มผู้ชมและผู้ฟังทั่วประเทศ สำหรับข่าวต่างประเทศ จะเน้นข่าวที่น่าสนใจ ถือเป็นการปรับโครงสร้างการทำงานของ สทท.11 แบบบูรณาการ โดยหลังจากนี้ สัดส่วนรายการข่าวของ สทท.11 จะเพิ่มขึ้นอีก 25% ภายในปี 2548 หรือมีสัดส่วนรายการข่าวเป็น 40% ของรายการทั้งหมด
“ในรายการทันข่าวเช้านี้ จะมีช่วงของข่าวชาวบ้าน โดยเปิดตู้ ปณ.คลายทุกข์ รับเรื่องร้องเรียนจากความเดือนร้อนของประชาชน รวมถึงกิจกรรมชุมชน ทั่วประเทศ เป็นช่วง ไทยแลนด์รีพอร์ต ตรงนี้เชื่อว่าผู้ชมต่างจังหวัดจะให้ความสนใจเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว ขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่น ก็ยินดี ให้ข้อมูลความเคลื่อนไหวในท้องถิ่นของตน ออกสู่สายตาคนทั่วประเทศ ”
อย่างไรก็ตาม นโยบายการนำเสนอข่าวโดยรวมของ สทท. 11 ยังเน้นนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลเพื่อต้องการสร้างความเข้าใจระหว่างรัฐกับประชาชน ในทุกกลุ่ม เนื่องจากที่ผ่านมา มีการปฏิรูปการเมือง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาลในหลายส่วน จึงต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมืองตามหลักประชาธิปไตยด้วย สำหรับเงินงบประมาณที่จะใช้ ส่วนหนึ่งสทท.11ได้รับจัดสรรมาจากเงินงบประมาณ และส่วนหนึ่งได้มาจากการช่วยเหลือของกระทรวง ต่างๆกว่า 10 แห่ง รวมประมาณ 80 ล้านบาท ต่อปี แลกกับการนำเสนอกิจกรรมของแต่ละกระทรวง