ผู้นำตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ "ยีเอส" มั่นใจกินรวบทั้งตลาด OEM และ REM ฟันยอดขายปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท หลังจากเปิดตัวสินค้าใหม่ GS Super Diamond พร้อมประกาศลงทุนเพิ่มระยะ 3 ปี มูลค่ากว่า 180 ล้านบาท หวังเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัว
นายพรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามยีเอสแบตเตอรี่ และสยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ยี่เอส (GS) เปิดเผยว่า ปัจจุบันแบตเตอรี่ยีเอสยังคงครองความเป็นหนึ่งของตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ ทั้งในตลาดโรงงานประกอบรถยนต์ (OEM) และตลาดทดแทน (REM) โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 60% และ 39% ตามลำดับ
"ในปีนี้ยีเอสยังมั่นใจว่าจะสามารถครองอันดับหนึ่งของตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ต่อไป ล่าสุดได้มีการเปิดตัวแบตเตอรี่ GS Super Diamond แบบไม่เติมน้ำกลั่น หรือ Maintenance Free สู่ตลาด ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเหมือนกับรุ่น Diamond ที่ได้แนะนำสู่ตลาดเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา"
นายวิชิต บัวศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยีเอสแบเตอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ผลจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด ทำให้ยีเอสมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ไม่ประมาณ 1,600 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีมูลค่ายอดขายทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายอยู่ 3 กลุ่มหลักใหญ่ คือ แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์, รถจักรยานยนต์ และแบตเตอรี่อเนกประสงค์
ในส่วนของการผลิตแบตเตอรี่ยีเอส ในปีที่ผ่านมาสามารถผลิตแบตเตอรี่รถยนต์จำวน 1.9 ล้านลูก แบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ 1.4 ล้านลูก และแบตเตอรี่รถยกไฟฟ้า 700 ชุด รวมมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท โดยในปี 2547 นี้ ได้ตั้งเป้าการผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วทุกประเภท แบ่งเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ 2.2 ล้านลูก แบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ 1.7 ล้านลูก และแบตเตอรี่รถยกไฟฟ้า 1,000 ชุด โดยคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,300 ล้านลูก เพื่อรองรับตลาดที่ขยายตัวขึ้นในปีนี้
สำหรับแผนการลงทุน บริษัทฯ มีแผนการลงทุนโดยการขยายโรงงาน เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 180 ล้านบาท ภายในปี 2548-2550 โดยในปีหน้าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อขยายอาคารและเพิ่มเครื่องจักรในการผลิต และอีกสองปีถัดไปจะเพิ่มเครื่องจักรใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท
ดังนั้นภายหลังจากการขยายโรงงานและเพิ่มเครื่องจักรแล้ว จะทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกประมาณ 50% หรือรองรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ได้ถึง 3.6 ล้านลูกต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตของยีเอสสแบตเตอรี่รถยนต์อยู่ที่ 2.4 ล้านลูกต่อปี
นายพรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามยีเอสแบตเตอรี่ และสยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ยี่เอส (GS) เปิดเผยว่า ปัจจุบันแบตเตอรี่ยีเอสยังคงครองความเป็นหนึ่งของตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ ทั้งในตลาดโรงงานประกอบรถยนต์ (OEM) และตลาดทดแทน (REM) โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 60% และ 39% ตามลำดับ
"ในปีนี้ยีเอสยังมั่นใจว่าจะสามารถครองอันดับหนึ่งของตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ต่อไป ล่าสุดได้มีการเปิดตัวแบตเตอรี่ GS Super Diamond แบบไม่เติมน้ำกลั่น หรือ Maintenance Free สู่ตลาด ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเหมือนกับรุ่น Diamond ที่ได้แนะนำสู่ตลาดเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา"
นายวิชิต บัวศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยีเอสแบเตอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ผลจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด ทำให้ยีเอสมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ไม่ประมาณ 1,600 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีมูลค่ายอดขายทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายอยู่ 3 กลุ่มหลักใหญ่ คือ แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์, รถจักรยานยนต์ และแบตเตอรี่อเนกประสงค์
ในส่วนของการผลิตแบตเตอรี่ยีเอส ในปีที่ผ่านมาสามารถผลิตแบตเตอรี่รถยนต์จำวน 1.9 ล้านลูก แบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ 1.4 ล้านลูก และแบตเตอรี่รถยกไฟฟ้า 700 ชุด รวมมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท โดยในปี 2547 นี้ ได้ตั้งเป้าการผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วทุกประเภท แบ่งเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ 2.2 ล้านลูก แบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ 1.7 ล้านลูก และแบตเตอรี่รถยกไฟฟ้า 1,000 ชุด โดยคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,300 ล้านลูก เพื่อรองรับตลาดที่ขยายตัวขึ้นในปีนี้
สำหรับแผนการลงทุน บริษัทฯ มีแผนการลงทุนโดยการขยายโรงงาน เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 180 ล้านบาท ภายในปี 2548-2550 โดยในปีหน้าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อขยายอาคารและเพิ่มเครื่องจักรในการผลิต และอีกสองปีถัดไปจะเพิ่มเครื่องจักรใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท
ดังนั้นภายหลังจากการขยายโรงงานและเพิ่มเครื่องจักรแล้ว จะทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกประมาณ 50% หรือรองรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ได้ถึง 3.6 ล้านลูกต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตของยีเอสสแบตเตอรี่รถยนต์อยู่ที่ 2.4 ล้านลูกต่อปี