xs
xsm
sm
md
lg

"ยงยุทธ"ไฟเขียวช่อง11ศึกษาปรับราคา เรียกผู้จัดปรับรูปแบบรายการ-ปีหน้าเพิ่มสัดส่วนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะกรรมการพัฒนาประสิทธิภาพ สทท.11 มีมติไฟเขียวให้ช่อง 11 ดำเนินการศึกษาการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าเวลาสถานีและค่าโฆษณา เสนอที่ประชุมคณะกรรมการฯให้พิจารณาภายในเดือนกันยายนนี้ โดยต้องอยู่บนพื้นฐานราคาที่เหมาะสม บนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น คาดความเหมาะสมน่าจะปรับราคาขึ้นอีกราว 20% ขณะที่ผังรายการใหม่ปีหน้า เพิ่มรายการข่าวเป็น 40% จากปัจจุบันเพียง 30 % ส่วนการจะเป็นสถานีข่าว 100% ตามนโยบายเดิม เป็นไปได้ยาก เหตุช่อง 11 ยังคงต้องเป็นสถานีประชาสัมพันธ์ให้กับหน่วยงานราชการ เผยทยอยเรียกผู้จัดรายการ ปรับปรุงรูปแบบรายการ

แหล่งข่าวจากสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาประสิทธิภาพ สทท.11 ซึ่งมี พ.ต.ท.ยงยุทธ สาระสมบัติ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการฯ มีมติให้ช่อง 11 ไปดำเนินการศึกษาการกำหนดอัตราค่าเช่าเวลาสถานี และอัตราค่าโฆษณา โดยต้องเป็นอัตราที่อยู่บนพื้นฐานความเหมาะสม และนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาในเดือนกันยายนนี้

ส่วนการปรับผังรายการใหม่ที่ต้องการให้เป็นสถานีข่าวเกือบ 100% นั้นให้ชลอออกไปก่อน ทั้งนี้เพราะมองว่า ความเป็นสถานีโทรทัศน์ที่เหมาะสม ควรมีทั้งรายการข่าว รายการสาระบันเทิง ควบคู่กันไป อีกทั้ง ช่อง 11 ยังคงต้องเป็นสถานีที่ช่วยประชาสัมพันธ์งานให้กับหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล จึงนำเสนอรายการข่าวเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่อาจมีการปรับสัดส่วนรายการข่าวให้เพิ่มมากขึ้นในปีหน้า จากปัจจุบันสัดส่วนรายการข่าวมี 30% ของรายการที่ออกอากาศ ปีหน้าจะปรับเพิ่มเป็น 40% ส่วนอีก 60% จะให้น้ำหนักกับรายการสาระความรู้

ทั้งนี้ในส่วนของรายการถ่ายทอดสดบางอย่าง อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นการรายงานข่าว โดยจะพิจารณาจากเนื้อหาสาระของการถ่ายทอดสดว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหน เพื่อไม่ให้ผู้ชมเกิดความเบื่อหน่าย นอกจากนั้นในส่วนของรายการเพื่อการศึกษา หรือรายการของภาครัฐบาลโดยกระทรวงหรือหน่วยงานต่างๆผลิตเข้ามา จะต้องมีการเจรจาทำความเข้าใจในเรื่องการปรับเปลี่ยนรูปแบบนำเสนอ จากปัจจุบันที่รูปแบบรายการจะเป็นการนั่งพูดคุยในห้องส่ง ซึ่งรูปแบบใหม่ ช่อง 11 ต้องการให้รูปแบบรายการดูผ่อนคลายมากขึ้น ไม่เป็นทางการมากเกินไปเพื่อดึงผู้ชมให้ติดตาม แต่ยังคงไว้ซึ่งเนื้อหาสาระ

"เราได้เริ่มทยอยเจรจากับพันธมิตรที่ผลิตรายการทั้งหมด ให้เข้าใจถึงวัตถุประสงค์และการปรับปรุงรูปแบบรายการ เพราะการนำเสนอสาระประโยชน์ต่างๆทำได้หลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้ชมเกิดความเพลิดเพลิน และซึมซับสาระนั้นๆได้โดยไม่เบื่อหน่าย เพราะการนั่งสนทนาเพียงอย่างเดียวทำให้รายการไม่น่าสนใจ ทั้งที่เนื้อหามีประโยชน์ แต่ก็ไม่ชวนติดตาม"

ทั้งนี้ผู้บริหารช่อง 11 หลายท่าน เห็นตรงกันในเรื่องของการปรับขึ้นค่าโฆษณา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ส่วนการปรับเพิ่มน่าจะประมาณ 10-20% เนื่องจากเราเป็นสถานีโทรทัศน์ของราชการ นำเสนอข่าวสารให้กับองค์กรภาครัฐเป็นหลัก ไม่ได้เป็นองค์กรเพื่อมุ่งหวังกำไร แต่ค่าใช้จ่ายในการผลิตก็ต้องมี ซึ่งงบประมาณที่ได้จากรัฐ ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่คงไม่เพียงพอ และการขอปรับขึ้นค่าโฆษณา ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางของการหารายได้ มาใช้บำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องส่งต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ที่เปิดช่องว่างให้ช่อง 11 สามารถทำได้

"เครื่องมือทั้งหมดที่รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณจัดซื้อมาให้นั้น ต้องได้รับการดูแล ซึ่งตรงนี้ในอนาคตอาจต้องมีการจัดจ้างบริษัทที่เชี่ยวชาญเข้ามาบำรุงรักษาอุปกรณ์ ขณะที่บุคลากรที่มีประสิทธิภาพช่อง 11 ก็ได้มีการฝึกอบรมเพิ่มเติมความรู้ให้อยู่ตลอดเวลา" แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตามปัจจุบันในส่วนของค่าเช่าเวลา มี 3 ราคา คือ 3.5 หมื่นบาท, 6 หมื่นบาท และ 9 หมื่นบาท ต่อชั่วโมง แล้วแต่ช่วงเวลา ส่วนอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยที่นาทีละ 5,000 บาทซึ่งถูกกว่าฟรีทีวีช่องอื่นๆมาก เพราะเราไม่ได้มุ่งหวังผลกำไร

แหล่งข่าวกล่าวถึงการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ว่า ได้รับความนิยมจากผู้ชมสูงมาก ทั้งนี้เพราะได้มีการสำรวจด้วยการเปิดรับไปรษณียบัตรติชมรายการ พบว่ามีผู้ชมส่งเข้ามามากถึง 10,000 ฉบับต่อวัน ซึ่งจุดเด่นของช่อง 11 ในการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ที่เหนือกว่าสถานีช่องอื่นๆ คือ ไม่มีโฆษณา เวลาในการถ่ายทอดต่อวัน และชนิดของกีฬาที่ถ่ายทอด ก็มากกว่าสถานีช่องอื่น นอกจากนั้นยังมีบุคลากรที่มีความรู้ด้านกีฬา เข้ามาบรรยายให้ผู้ชมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของการถ่ายทอดสดการแข่งกีฬาในโอกาสต่อไป ซึ่งช่อง 11 จะเลือกถ่ายทอดสดในกีฬาและการแข่งขันที่สำคัญ และเป็นที่สนใจของประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น