"องค์การเภสัช" เปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิว "จี พี โอเคอร์มิน" ใช้นวตกรรม "นาโนเทคโนโลยี" ประยุกต์เข้ากับสมุนไพรพื้นบ้านขมิ้นชัน พร้อมเตรียมเทียบชั้นขึ้นแท่นมาตรฐานโลก ขณะที่ "สุดารัตน์" ปลื้มผลิตภัณฑ์นี้ไปรุ่งแน่ กำชับให้เพิ่มกำลังการผลิตโดยเร็ว
น.พ.ธงชัย ทวิชาชาติ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยถึงความสำเร็จของสถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม ว่า ได้มีการพัฒนาสมุนไพรพื้นบ้านขมิ้นชัน จากการสกัดสารเคอร์คูมินอยด์ ซึ่งเป็นสารสีเหลืองในขมิ้นชัน มาผลิตเป็นยาแคปซูลและครีมบำรุงผิวในรูปของไลโปโซม ซึ่งเป็นวิทยาการนาโนเทคโนโลยี
ขณะที่ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมได้สนองนโยบายการเดินหน้าในเชิงรุกเพื่อรองรับตลาดการแข่งขันเสรี ซึ่งมอบนโยบายเชิงรุกใน 2 ด้าน คือ การดูแลสุขภาพของประชาชน โดยการผลิตสินค้าและตัวยาที่มีคุณภาพ รวมถึงการเป็นผู้นำด้านราคายา เพื่อควบคุมไม่ให้ราคาสูงเกินไป และ การให้องค์การเภสัชกรรมทำเรื่องของการตลาด โดยการหาตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ดังนั้น คงต้องเร่งปรับการผลิตให้เพิ่มมากขึ้น ส่วนทางด้านสมุนไพรนั้น ต้องการให้ประเทศไทยเป็นเหมือนเกาหลีคือ
เมื่อใครไปเกาหลีก็จะต้องซื้อโสมกลับมา เหมือนกับที่ใครมาประเทศไทยก็น่าจะหาซื้อสมุนไพรไทย โดยขณะนี้สมุนไพร 3 ชนิด ที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ก็คือ ขมิ้นชัน กวาวเครือ และกระชายดำ
"อนาคตคาดว่า จะวางจำหน่ายได้ในสถานที่สะดวกซื้อมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่ในร้านยาขององค์การเภสัชกรรมเท่านั้น เช่นในห้างสรรพสินค้า ซึ่งตอนนี้ได้จองบูธของการท่าอากาศยานเอาไว้แล้ว ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็สามารถวางจำหน่ายได้ทันที ส่วนเรื่องคุณภาพนั้น เรากำลังจะส่งไปห้องแล็ปที่ฝรั่งเศส เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างประเทศ ซึ่งผลวิจัยเบื้องต้น ในสรรพคุณการรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น เราสามารถเทียบชั้นกับเครื่องสำอางดังๆ ได้" นางสุดารัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ ทางองค์การเภสัชกรรม ยังได้เตรียมของบเพิ่มอีก 5 ล้านบาท ในการปรับปรุงการผลิตผลิตภัณฑ์จากขมิ้นชันนี้ให้เพิ่มมากขึ้นในโรงงานยา เช่นการซื้อเครื่องจักร เพื่อเพิ่มผลผลิต ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถผลิตได้เป็นหมื่นกระปุกต่อเดือน
อนึ่ง สำหรับผลิตภัณฑ์จี พี โอเคอร์มินนี้ จะออกวางจำหน่ายครั้งแรกในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 1 วันที่ 1-5 กันยายนนี้ ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งรูปแบบผลิตภัณฑ์ออกแบบอย่างสวยงามทันสมัย โดยจำหน่ายในขนาดบรรจุ 15 กรัม และ 500 กรัม ในราคาโปรโมชั่น 350 บาท และ 1,000 บาท ตามลำดับ จากราคาปกติ 450 และ 1,300 บาท และภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าชนิดอื่นขององค์การเภสัชกรรมอีกมาก
น.พ.ธงชัย ทวิชาชาติ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยถึงความสำเร็จของสถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม ว่า ได้มีการพัฒนาสมุนไพรพื้นบ้านขมิ้นชัน จากการสกัดสารเคอร์คูมินอยด์ ซึ่งเป็นสารสีเหลืองในขมิ้นชัน มาผลิตเป็นยาแคปซูลและครีมบำรุงผิวในรูปของไลโปโซม ซึ่งเป็นวิทยาการนาโนเทคโนโลยี
ขณะที่ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมได้สนองนโยบายการเดินหน้าในเชิงรุกเพื่อรองรับตลาดการแข่งขันเสรี ซึ่งมอบนโยบายเชิงรุกใน 2 ด้าน คือ การดูแลสุขภาพของประชาชน โดยการผลิตสินค้าและตัวยาที่มีคุณภาพ รวมถึงการเป็นผู้นำด้านราคายา เพื่อควบคุมไม่ให้ราคาสูงเกินไป และ การให้องค์การเภสัชกรรมทำเรื่องของการตลาด โดยการหาตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ดังนั้น คงต้องเร่งปรับการผลิตให้เพิ่มมากขึ้น ส่วนทางด้านสมุนไพรนั้น ต้องการให้ประเทศไทยเป็นเหมือนเกาหลีคือ
เมื่อใครไปเกาหลีก็จะต้องซื้อโสมกลับมา เหมือนกับที่ใครมาประเทศไทยก็น่าจะหาซื้อสมุนไพรไทย โดยขณะนี้สมุนไพร 3 ชนิด ที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ก็คือ ขมิ้นชัน กวาวเครือ และกระชายดำ
"อนาคตคาดว่า จะวางจำหน่ายได้ในสถานที่สะดวกซื้อมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่ในร้านยาขององค์การเภสัชกรรมเท่านั้น เช่นในห้างสรรพสินค้า ซึ่งตอนนี้ได้จองบูธของการท่าอากาศยานเอาไว้แล้ว ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็สามารถวางจำหน่ายได้ทันที ส่วนเรื่องคุณภาพนั้น เรากำลังจะส่งไปห้องแล็ปที่ฝรั่งเศส เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างประเทศ ซึ่งผลวิจัยเบื้องต้น ในสรรพคุณการรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น เราสามารถเทียบชั้นกับเครื่องสำอางดังๆ ได้" นางสุดารัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ ทางองค์การเภสัชกรรม ยังได้เตรียมของบเพิ่มอีก 5 ล้านบาท ในการปรับปรุงการผลิตผลิตภัณฑ์จากขมิ้นชันนี้ให้เพิ่มมากขึ้นในโรงงานยา เช่นการซื้อเครื่องจักร เพื่อเพิ่มผลผลิต ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถผลิตได้เป็นหมื่นกระปุกต่อเดือน
อนึ่ง สำหรับผลิตภัณฑ์จี พี โอเคอร์มินนี้ จะออกวางจำหน่ายครั้งแรกในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 1 วันที่ 1-5 กันยายนนี้ ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งรูปแบบผลิตภัณฑ์ออกแบบอย่างสวยงามทันสมัย โดยจำหน่ายในขนาดบรรจุ 15 กรัม และ 500 กรัม ในราคาโปรโมชั่น 350 บาท และ 1,000 บาท ตามลำดับ จากราคาปกติ 450 และ 1,300 บาท และภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าชนิดอื่นขององค์การเภสัชกรรมอีกมาก