ผู้บริหาร ซีพี เซเว่นอีเลฟเว่น ยืนยันยังจำเป็นต้องเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงต่อไป หลังมีกระแสรัฐบาลเตรียมขอความร่วมมือให้ปิดบริการเร็วขึ้นเพื่อสนับสนุนมาตรการประหยัดพลังงาน ขณะเดียวกันยอมรับว่าผลของวิกฤติพลังงานขณะนี้มีผู้ผลิตและขายส่งขอปรับขึ้นราคาสินค้าแล้ว ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 47 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ถือเป็นแนวคิดของร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และการเปิดให้บริการช่วงกลางคืนก็เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ทำงานในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับนโยบายจากนายธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้เร่งหามาตรการประหยัดพลังงานลงให้ได้ร้อยละ 20 ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ โดยในเบื้องต้นจะมีมาตรการเปิดไฟตู้หน้าร้านหรือไลฟ์บล็อคช้าลง จากเวลา 17.00 น. เป็นเวลา 19.00 น. และให้ไฟทุกหลอดที่อยู่ในร้านเป็นการใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานทั้งสิ้น
สำหรับผลกระทบจากราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าบ้างแล้ว ขณะนี้ยอมรับว่ามีผู้ผลิตและค้าส่งขอปรับราคาสินค้าบางรายการแล้ว แต่เซเว่นอีเลฟเว่นจะสนับสนุนนโยบายรัฐด้วยการช่วยตรึงราคาสินค้าต่อไป ซึ่งขณะนี้เห็นว่าสินค้าในร้านยังไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด โดยบริษัทจะรอจนกว่าภาครัฐจะส่งสัญญาณว่ามีสินค้าหมวดใดที่สามารถปรับขึ้นราคาได้ก่อน
นายปิยะวัฒน์ กล่าวถึงผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยในรอบ 6 เดือนแรกของปีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2547 ว่ามีกำไรสุทธิ 890.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิที่ 756.95 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดขายของธุรกิจร้านสะดวกซื้อและธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้นเป็นผลให้รายได้รวมของบริษัทในครึ่งปีแรกเท่ากับ 36.111 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
“สำหรับการขยายสาขายังคงเป้าหมายการขยายสาขาปีละ 320 สาขา โดยในปี 2546 บริษัทได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นถึง 355 สาขา ส่วน 6 เดือนแรกของปี 2547 บริษัทมีสาขาเพิ่มขึ้นแล้ว 229 สาขา รวมทั้งสิ้นขณะนี้บริษัทมีสาขาทั้งหมด 2,626 สาขา” นายปิยะวัฒน์ กล่าว
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ถือเป็นแนวคิดของร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และการเปิดให้บริการช่วงกลางคืนก็เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ทำงานในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับนโยบายจากนายธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้เร่งหามาตรการประหยัดพลังงานลงให้ได้ร้อยละ 20 ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ โดยในเบื้องต้นจะมีมาตรการเปิดไฟตู้หน้าร้านหรือไลฟ์บล็อคช้าลง จากเวลา 17.00 น. เป็นเวลา 19.00 น. และให้ไฟทุกหลอดที่อยู่ในร้านเป็นการใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานทั้งสิ้น
สำหรับผลกระทบจากราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าบ้างแล้ว ขณะนี้ยอมรับว่ามีผู้ผลิตและค้าส่งขอปรับราคาสินค้าบางรายการแล้ว แต่เซเว่นอีเลฟเว่นจะสนับสนุนนโยบายรัฐด้วยการช่วยตรึงราคาสินค้าต่อไป ซึ่งขณะนี้เห็นว่าสินค้าในร้านยังไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด โดยบริษัทจะรอจนกว่าภาครัฐจะส่งสัญญาณว่ามีสินค้าหมวดใดที่สามารถปรับขึ้นราคาได้ก่อน
นายปิยะวัฒน์ กล่าวถึงผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยในรอบ 6 เดือนแรกของปีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2547 ว่ามีกำไรสุทธิ 890.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิที่ 756.95 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดขายของธุรกิจร้านสะดวกซื้อและธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้นเป็นผลให้รายได้รวมของบริษัทในครึ่งปีแรกเท่ากับ 36.111 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
“สำหรับการขยายสาขายังคงเป้าหมายการขยายสาขาปีละ 320 สาขา โดยในปี 2546 บริษัทได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นถึง 355 สาขา ส่วน 6 เดือนแรกของปี 2547 บริษัทมีสาขาเพิ่มขึ้นแล้ว 229 สาขา รวมทั้งสิ้นขณะนี้บริษัทมีสาขาทั้งหมด 2,626 สาขา” นายปิยะวัฒน์ กล่าว