ยำยำเปิดตลาดเซ็กเม้นท์ใหม่ รุกแบบต้มเจาะตลาดพรีเมียม หวังขยายตลาดหลังพบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบเดิมเริ่มอื่มตัวโตช้าลง คาดหวังจะช่วยขยับแชร์เพิ่มเป็น 20% ในสิ้นปีนี้
นายเทซึโอะ ซูซูกิ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ กล่าวว่า ยำยำพยายามสร้างเซ็กเม้นท์ขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นการขยายตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเดิม หลังจากที่พบว่า ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเดิมนั้นเริ่มอิ่มตัวและมีการแข่งขันที่รุนแรงรวมทั้งมีอัตราการเติบโตช้าลงคาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะโตเพียง 3% เท่านั้น
จากการสำรวจของบริษัทฯจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,400 คนทั่วประเทศพบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบ ลวก 18% แบบต้ม 37% และแบบต้มกับลวกรวมกัน 45% ซึ่งทำให้เห็นว่า การทานแบบต้มนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบันเป็นตลาดที่ใหญ่พอสมควร ซึ่งแต่เดิมทุกวันนี้ก็มีพฤติกรรมแบบต้มเหมือนกันแฝงอยู่ในตลาดด้วย อีกทั้งความต้องการของกลุ่มตัวอย่างต้องการแบบต้มที่มีเส้นเหนียวนุ่ม ไม่กระด้าง เติมไข่ ผัก เนื้อสัตว์ได้ รสชาติไม่จางลง จึงเป็นที่มาของการออกยำยำแบบใหม่ ชนิดต้ม
"ยำยำถือว่าเป็นรายแรกที่สร้างเซ็กเม้นท์ขึ้นมาใหม่คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบต้มรสชาติไทยพรีเมียม ซึ่งมีความแตกต่างจากทั้งตลาดเดิมหรือคู่แข่งในเซ็กเม้นท์นี้"
ช่วงแรกจะออกมา 2 รสชาติก่อนคือ ตำรับเส้นนุ่มรสต้มยำกุ้งและรสหมูสับสาหร่าย ขายราคา 7 บาท ขนาด 55 กรัม ซึ่งวางตำแหน่งเป็นตลาดพรีเมียม แยกจากยำยำแบบเดิมที่มีทั้งราคา 5 บาท ในขนาด 55 กรัมและ 75 กรัม วางจำหน่ายทั่วไปเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท จัสโก้ ท็อปส์ คาร์ฟูร์ โตคิว เป็นต้น ใช้งบประมาณตลาด 3 ล้านบาท ทั้งกิจกรรม โฆษณาผ่านสื่อนิตยสารเฉพาะกลุ่ม โฆษณาจุดขาย ซึ่งขณะนี้จัดโปรโมชั่น เมื่อซื้อยำยำนู้ดเดิ้ลดี 2 ถ้วยในเซเว่นอีเลฟเว่นรับฟรียำยำแบบใหม่ 1 ซอง
นายซูซูกิ กล่าวว่า ในปีนี้ยำยำตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเติบโต 10% จากปีที่แล้ว และหวังที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอีก 2% จากเดิม 18% เป็น 20% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 9,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะสามารถช่วยให้ยอดขายเติบโตประมาณ 0.5-1%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเซ็กเม้นท์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบพรีเมียมนั้น ในท้องตลาดมีบ้างเช่น ยี่ห้อ เมียวโจ้ แต่ว่าเป็นยี่ห้อที่เน้นรสชาติญี่ปุ่นเป็นหลัก อีกทั้งมีราคาที่สูงกว่ายำยำด้วย
นายเทซึโอะ ซูซูกิ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ กล่าวว่า ยำยำพยายามสร้างเซ็กเม้นท์ขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นการขยายตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเดิม หลังจากที่พบว่า ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเดิมนั้นเริ่มอิ่มตัวและมีการแข่งขันที่รุนแรงรวมทั้งมีอัตราการเติบโตช้าลงคาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะโตเพียง 3% เท่านั้น
จากการสำรวจของบริษัทฯจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,400 คนทั่วประเทศพบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบ ลวก 18% แบบต้ม 37% และแบบต้มกับลวกรวมกัน 45% ซึ่งทำให้เห็นว่า การทานแบบต้มนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบันเป็นตลาดที่ใหญ่พอสมควร ซึ่งแต่เดิมทุกวันนี้ก็มีพฤติกรรมแบบต้มเหมือนกันแฝงอยู่ในตลาดด้วย อีกทั้งความต้องการของกลุ่มตัวอย่างต้องการแบบต้มที่มีเส้นเหนียวนุ่ม ไม่กระด้าง เติมไข่ ผัก เนื้อสัตว์ได้ รสชาติไม่จางลง จึงเป็นที่มาของการออกยำยำแบบใหม่ ชนิดต้ม
"ยำยำถือว่าเป็นรายแรกที่สร้างเซ็กเม้นท์ขึ้นมาใหม่คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบต้มรสชาติไทยพรีเมียม ซึ่งมีความแตกต่างจากทั้งตลาดเดิมหรือคู่แข่งในเซ็กเม้นท์นี้"
ช่วงแรกจะออกมา 2 รสชาติก่อนคือ ตำรับเส้นนุ่มรสต้มยำกุ้งและรสหมูสับสาหร่าย ขายราคา 7 บาท ขนาด 55 กรัม ซึ่งวางตำแหน่งเป็นตลาดพรีเมียม แยกจากยำยำแบบเดิมที่มีทั้งราคา 5 บาท ในขนาด 55 กรัมและ 75 กรัม วางจำหน่ายทั่วไปเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท จัสโก้ ท็อปส์ คาร์ฟูร์ โตคิว เป็นต้น ใช้งบประมาณตลาด 3 ล้านบาท ทั้งกิจกรรม โฆษณาผ่านสื่อนิตยสารเฉพาะกลุ่ม โฆษณาจุดขาย ซึ่งขณะนี้จัดโปรโมชั่น เมื่อซื้อยำยำนู้ดเดิ้ลดี 2 ถ้วยในเซเว่นอีเลฟเว่นรับฟรียำยำแบบใหม่ 1 ซอง
นายซูซูกิ กล่าวว่า ในปีนี้ยำยำตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเติบโต 10% จากปีที่แล้ว และหวังที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอีก 2% จากเดิม 18% เป็น 20% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 9,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะสามารถช่วยให้ยอดขายเติบโตประมาณ 0.5-1%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเซ็กเม้นท์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบพรีเมียมนั้น ในท้องตลาดมีบ้างเช่น ยี่ห้อ เมียวโจ้ แต่ว่าเป็นยี่ห้อที่เน้นรสชาติญี่ปุ่นเป็นหลัก อีกทั้งมีราคาที่สูงกว่ายำยำด้วย