หากจะเอ่ยชื่อเจ้าสัวน้ำเมาแห่งวงการ คงไม่มีใครไม่รู้จัก "เจริญ สิริวัฒนภักดี" ที่บุกเบิกทำธุรกิจจนกระทั่งปัจจุบันมีบริษัทเครื่องดื่มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 48 บริษัท โดยมีเครื่องดื่มอยู่ในกำมือตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์อย่างแม่โขง แสงโสม เหล้าขาว 30 ,40 ดีกรี และเบียร์ช้างที่กำลังรุกทำตลาดในยุโรป ด้วยการซื้อสิทธิ์ป้ายชื่อทีมฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน และกระทั่งล่าสุดเบียร์น้องใหม่แห่งวงการ"อาชา" ซึ่งยังไม่รวมถึงการก้าวรุกในธุรกิจอื่นๆอีก อาทิ โรงแรม คอนซูเมอร์โปรดักส์ ฯลฯ
ในขณะนี้เจ้าสัวน้ำเมา กำลังถ่ายโอนธุรกิจมากมายมหาศาลมอบให้แก่ทายาทในยุคเจเนอเรชันที่สองได้สืบทอดเจตนารมย์ต่อไป และหนึ่งในนั้นก็คือ "ฐานป สิริวัฒนภักดี" ที่จะต้องเข้ามารับบทบาทในการทำตลาดสินค้ากลุ่มเบียร์
นายฐาปน กล่าวในฐานะตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการภายใต้บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ทำการตลาดให้กับเบียร์อาชาว่า ได้รับมอบหมายให้ดูแลธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้กลุ่มธุรกิจอยู่ระหว่างการนำบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับการรับช่วงต่อในการบริหารงาน เขาได้วางแนวทางว่าจะทุ่มเทกับการทำงานให้เต็มที่ โดยใช้ความรู้และความสามารถที่ร่ำเรียนมาจากบอสตันทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเรียนรู้งานในภาพกว้างก่อน ส่วนเป้าหมายนั้นวางไว้ว่าจะพยายามทำธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเครือให้ดีที่สุด
"การก้าวเข้ามาบริหารงานกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้วนั้น ผมถือว่าไม่มีความหนักใจอะไรมากนัก เพราะภายในกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังมีผู้บริหารที่มีฝีมือ ที่จะเข้าร่วมมาพัฒนาองค์กรให้ก้าวสู่ความสำเร็จในอีกหลายระดับต่อไป"
การเริ่มถ่ายโอนธุรกิจของเจ้าสัวน้ำเมา"เจริญ"ในครั้งนี้ นายฐาปน ยังกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบคำว่าราชันย์น้ำเมาหรือเจ้าสัวน้ำเมา เพราะชื่อดังกล่าวจะออกไปทางเจ้าพ่อ แต่ในความเป็นจริงมองว่าคุณพ่อ เป็นนักธุรกิจธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีความทุ่มเทกับการทำงานมากกว่า เป็นคำพูดที่มีนัยเสมือนกับว่าหากนายฐาปนคนนี้ขึ้นมาดูแลธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเต็มตัวแล้ว ก็อยากให้ใช้สื่อมวลชนหาคำอื่นมาแทน ที่ต้องไม่ใช่ ราชันย์น้ำเมา
ส่วนธุรกิจอื่นๆ อาทิ โรงแรม คอนซูเมอร์โปรดักส์ ฯลฯ นายฐาปน กล่าวว่า จะมีการแบ่งให้ทายาทคนอื่นเข้าดูแล โดยจะขึ้นอยู่กับความถนัดและความสามารถของแต่ละคน เช่น ธุรกิจโรงแรมก็จะถ่ายโอนธุรกิจมอบให้แก่พี่สาวของเป็นผู้ดูแล เนื่องจากเรียนจบปริญญาตรีทางด้านสถาปัตยกรรม จากมหาวิทยาลัยศิลปากร และจบปริญญาโททางด้านพร็อพเพอร์ตี้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่าในยุคเจเนอร์เรชันที่สองแห่งตระกูล "สิริวัฒนภักดี" จะสร้างผลงานได้ไม่แพ้รุ่นยุคคุณพ่อที่บุกเบิกสร้างธุรกิจจำนวนมหาศาลได้หรือไม่ ส่วนความท้าทายอันใหม่ของทายาทน้ำเมา "ฐาปน สิริวัฒนภักดี" คงหนีไม่พ้นการปั้นเบียร์น้องใหม่อย่างอาชาให้ติดตลาดเร็วที่สุด คงจะต้องดูกันว่าช้างและม้าในอนาคตเบียร์ไหนจะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากกว่ากัน