บาร์เทอร์คาร์ดสบช่องรัฐหนุนเอสเอ็มอี เร่งขยายเครือข่ายเพิ่ม เล็งดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่เจ้าของโอทอปเข้าเป็นสมาชิก ดันยอดสิ้นปีโต 40% พร้อมจูงใจสมาชิกเดิมเพิ่มยอดใช้จ่ายข้ามประเทศ หวังกระตุ้นรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท
นายวรวัฒน์ โรจน์รังษี ผู้จัดการฝ่ายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการบาร์เทอร์คาร์ด เปิดเผยว่า การที่ภาครัฐให้การสนับสนุนธุรกิจขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีผลักดันให้ประชาชนหันมาทำธุรกิจจนเกิดกลุ่มธุรกิจโอทอปขึ้นมานั้น ส่งผลดีต่อการขยายเครือข่ายของบาร์เทอร์คาร์ดเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มนี้คือกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะดึงผู้ประกอบการสินค้าโอทอปเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น หลังจากมีอยู่แล้วประมาณ 50 ราย
ปัจจุบันมีสมาชิกเจ้าของธุรกิจในประเทศไทย 1,700 คน เติบโตจากปีที่แล้ว 35% ตั้งเป้าสิ้นปีเติบโตอีก 40% และมีสาขา 7 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นสาขาของบริษัทเอง 2 แห่ง และแฟรนไชส์ 5 แห่ง มีแผนที่จะขยายเพิ่มเองอีก 1 แห่งและขายแฟรนไชส์อีก 2 แห่งภายในปีนี้ พร้อมตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 25 แห่งต่อเนื่องจนถึงปี 2550 แบ่งสัดส่วนเป็นการลงทุนเอง 20% และขายแฟรนไชส์ 80%
สมาชิกของบาร์เทอร์คาร์ดขณะนี้ครอบคลุมทุกประเภทธุรกิจที่มีอยู่ในเมืองไทยแล้ว และสามารถซื้อสินค้าและบริการด้วยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้ากับสมาชิกที่มีอยู่กว่า 500,000 ธุรกิจ ในกว่า 15 ประเทศทั่วโลก สัดส่วนของการซื้อสินค้าของสมาชิกคนไทยยังนิยมแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการภายในประเทศ 90% มีเพียง 10% เท่านั้นที่แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการจากต่างประเทศ ปีนี้บริษัทจะรุกขยายสัดส่วนการแลกเปลี่ยนต่างประเทศเพิ่มเป็น 30-40% เพื่อเพิ่มมูลค่าการทำธุรกรรมเป็นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมามีมูลค่า 500 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท และจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 40%
ทั้งนี้ บาร์เทอร์คาร์ดเป็นธุรกิจแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการจากธุรกิจของสมาชิกให้กับกลุ่มสมาชิกด้วยกัน โดยคิดค่าเงินเป็นเทรด บาทหรือทีบี (Trade Baht : TB) ซึ่งผ่านการรับรองจากรัฐบาลไทยให้ค่าเงินดังกล่าวมีมูลค่าเช่นเดียวกับค่าเงินบาทไทยที่ใช้จริง โดยบริษัทจะมีรายได้จากค่าสมัครสมาชิก รายได้จากค่าบริการรายเดือน และรายได้จากค่าบริการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ 6% ซึ่งการผลักดันให้สมาชิกแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการระหว่างประเทศจะช่วยให้บริษัทเติบโตได้มากขึ้น
นายวรวัฒน์ โรจน์รังษี ผู้จัดการฝ่ายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการบาร์เทอร์คาร์ด เปิดเผยว่า การที่ภาครัฐให้การสนับสนุนธุรกิจขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีผลักดันให้ประชาชนหันมาทำธุรกิจจนเกิดกลุ่มธุรกิจโอทอปขึ้นมานั้น ส่งผลดีต่อการขยายเครือข่ายของบาร์เทอร์คาร์ดเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มนี้คือกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะดึงผู้ประกอบการสินค้าโอทอปเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น หลังจากมีอยู่แล้วประมาณ 50 ราย
ปัจจุบันมีสมาชิกเจ้าของธุรกิจในประเทศไทย 1,700 คน เติบโตจากปีที่แล้ว 35% ตั้งเป้าสิ้นปีเติบโตอีก 40% และมีสาขา 7 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นสาขาของบริษัทเอง 2 แห่ง และแฟรนไชส์ 5 แห่ง มีแผนที่จะขยายเพิ่มเองอีก 1 แห่งและขายแฟรนไชส์อีก 2 แห่งภายในปีนี้ พร้อมตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 25 แห่งต่อเนื่องจนถึงปี 2550 แบ่งสัดส่วนเป็นการลงทุนเอง 20% และขายแฟรนไชส์ 80%
สมาชิกของบาร์เทอร์คาร์ดขณะนี้ครอบคลุมทุกประเภทธุรกิจที่มีอยู่ในเมืองไทยแล้ว และสามารถซื้อสินค้าและบริการด้วยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้ากับสมาชิกที่มีอยู่กว่า 500,000 ธุรกิจ ในกว่า 15 ประเทศทั่วโลก สัดส่วนของการซื้อสินค้าของสมาชิกคนไทยยังนิยมแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการภายในประเทศ 90% มีเพียง 10% เท่านั้นที่แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการจากต่างประเทศ ปีนี้บริษัทจะรุกขยายสัดส่วนการแลกเปลี่ยนต่างประเทศเพิ่มเป็น 30-40% เพื่อเพิ่มมูลค่าการทำธุรกรรมเป็นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมามีมูลค่า 500 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท และจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 40%
ทั้งนี้ บาร์เทอร์คาร์ดเป็นธุรกิจแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการจากธุรกิจของสมาชิกให้กับกลุ่มสมาชิกด้วยกัน โดยคิดค่าเงินเป็นเทรด บาทหรือทีบี (Trade Baht : TB) ซึ่งผ่านการรับรองจากรัฐบาลไทยให้ค่าเงินดังกล่าวมีมูลค่าเช่นเดียวกับค่าเงินบาทไทยที่ใช้จริง โดยบริษัทจะมีรายได้จากค่าสมัครสมาชิก รายได้จากค่าบริการรายเดือน และรายได้จากค่าบริการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ 6% ซึ่งการผลักดันให้สมาชิกแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการระหว่างประเทศจะช่วยให้บริษัทเติบโตได้มากขึ้น