ราคาน้ำมันขยับลงในวันพุธ(27ธ.ค.) นักลงทุนทบทวนข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกาและประเมินความเสี่ยงทางอุปทานจากเวเนซุเอลาและรัสเซีย ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก จับตาความเคลื่อนไหวในช่วงคริสต์มาสจนถึงปีใหม่ ขณะที่ทองคำปรับลด จากการขายทำกำไร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 58.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 62.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลสหรัฐฯพบว่าเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ เติบโตในอัตราที่ร้อนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี ในไตรมาส 3 ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวอย่างมากในภาคการส่งออก
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบรนท์และเวสต์เทกซัส อยู่บนเส้นทางของการปรับลดราว 16% และ 18% ตามลำดับในปีนี้ ถือเป็นการร่วงลงหนักหน่วงสุดนับตั้งแต่ปี 2020 ครั้งที่โรคระบาดใหญ่โควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน ท่ามกลางความคาดหมายว่าอุปทานจะล้นความต้องการในปีหน้า
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ในวันพุธ(24ธ.ค.) ในการซื้อขายเพียงครึ่งวันก่อนหน้าวันหยุด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 288.75 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 48,731.16 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.26 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,932.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 51.46 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,613.31 จุด
พวกนักลงทุนจับตาด้วยความหวังต่อ Santa Claus Rally ทฤษฎีที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะ เอสแอนด์พี 500 จะปรับตัวขึ้นสูงในช่วงเทศกาลคริสต์มาส วัดจากผลตอบแทนในช่วง 5 วันทำการสุดท้าย และ 2 วันทำการแรกของเดือนมกราคมในปีถัดไป แม้ปราศจากข้อมูลทางเศรษฐกิจสำคัญๆ
ส่วนราคาทองคำขยับลงในวันพุธ(24ธ.ค.) นักลงทุนพักหายใจ ตามหลังพุ่งเหนือ 4,500 ดอลาร์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.10 % ปิดที่ 4,502.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์/เอเอฟพี)


