ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์(21ธ.ค.) แต่งตั้ง เจฟฟ์ แลนดรีย์ ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา เป็นทูตพิเศษประจำกรีนแลนด์ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบใหม่จากเดนมาร์กและกรีนแลนด์ ต่อความสนใจของวอชิงตันที่มีต่อเกาะอาร์กติกที่อุดมไปด้วยแร่แห่งนี้ ในขณะที่เจ้าตัวยังเติมเชื้อไฟความโกรธ บอกว่ามีหน้าที่ทำให้กรีนแลนด์ ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
ทรัมป์ อยากได้เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ อ้างถึงความสำคัญทางยุทธศาสตร์และทรัพยากรแร่ ขณะที่ แลนดรีย์ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรัฐในเดือนมกราคม 2024 สนับสนุนแนวคิดดังกล่าวอย่างเปิดเผย
"คุณไม่อาจผนวกประเทศอื่น ไม่ควรมีประเด็นโต้เถียงใดๆ เกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศ" เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กและเยนส์-เฟรเดริก นีลเซน นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ ระบุในถ้อยแถลงร่วม "กรีนแลนด์เป็นของชาวกรีนแลนด์ และสหรัฐฯไม่ควรยึดครองกรีนแลนด์"
ในข้อความที่โพสต์บนทรุตช์โซเชียล ทรัมป์เขียนว่า "เจฟฟ์ เข้าใจดีถึงความจำเป็นที่กรีนแลนด์เป็นส่วนหนึ่งด้านความมั่นคงแห่งชาติของเรา และจะเดินหน้าอย่างแข็งขันเพื่อผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศของเรา ความอยู่รอดของพันธมิตรของเรา และความอยู่รอดของโลก"
แลนดรีย์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ถือเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่ ในตำแหน่งสมัครใจสำหรับทำให้กรีนแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ มันจะไม่กระทบต่อหน้าที่การงานของผมในฐานะผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา"
รัฐบาลทรัมป์ ถาโถมแรงกดดันใส่เดนมาร์กเพิ่มเติมในวันจันทร์(22ธ.ค.) ด้วยการระงับสัญญาเช่าโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งขนาดใหญ่ 5 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างนอกชายฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐฯ ในนั้น 2 โครงการพัฒนาโดยบริษัท Orsted ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐเดนมาร์ก
กรีนแลนด์ อดีตอาณานิคมของเดนมาร์ก ซึ่งมีประชากรราวๆ 57,000 คน ได้สิทธิ์ประกาศเอกราชภายใต้ข้อตกลงฉบับหนึ่งปี 2009 แต่พวกเขายังคงต้องพึ่งพิงการประมงและการอุดหนุนจากเดนมาร์กเป็นอย่างมาก
ที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของพวกเขา ซึ่งอยู่ระหว่างยุโรปและอเมริกาเหนือ ทำให้พวกเขาเป็นจุดสำคัญสำหรับระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ ขณะที่ความมั่นคั่งด้านทรัพยากรแร่ก็ยิ่งตอกย้ำความสนใจของอเมริกา ที่กำลังหาทางลดพึ่งพาแร่ส่งออกของจีน
นีลเซน นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ แสดงความเห็นบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า "เราสะดุ้งตื่นอีกครั้งจากถ้อยแถลงใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ฟังแล้วอาจดูสำคัญ แต่สำหรับเราแล้วมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เราเป็นคนตัดสินอนาคตของเราเอง"
ลาร์ส เลคเค ราสมุสเซน รัฐมนตรีต่างประเทศของเดนมาร์ก เปิดเผยในวันจันทร์(22ธ.ค.) ว่าจะเรียก เคนเนธ โฮเวรี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เข้าพบเพื่อประท้วง เนื่องจากทูตรายนี้เคยรับปากจะ "ให้ความเคารพกันและกัน" ระหว่างการเดินทางเยือนกรีนแลนด์เมื่อไม่นานที่ผ่านมา
"โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้มีผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหัฐฯ ที่อ้างตัวเองว่ามีหน้าที่ยึดเกาะกรีนแลนด์ แน่นอนว่า สิ่งนี้ไม่อาจยอมรับได้โดยสิ้นเชิง" ราสมุสเซนกล่าว
(ที่มา:รอยเตอร์)


