ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งประกาศเป้าหมายในการส่งมนุษย์กลับไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้งภายในปี 2028 และปกป้องอวกาศจากภัยคุกคามจากอาวุธ ในคำสั่งบริหารฉบับใหญ่ที่ออกเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค) ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวด้านนโยบายอวกาศครั้งสำคัญครั้งแรกในรัฐบาลเทอมที่ 2 ของเขา
คำสั่งดังกล่าวซึ่งออกหลังจากที่ จาเร็ด ไอแซคแมน นักบินอวกาศเอกชนมหาเศรษฐีและอดีตลูกค้าของ SpaceX เข้ารับตำแหน่งผู้บริหารคนที่ 15 ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งขาติสหรัฐฯ หรือ นาซา เพียงไม่กี่ชั่วโมง ยังมีการปรับโครงสร้างการประสานงานนโยบายอวกาศระดับชาติภายใต้การดูแลของ ไมเคิล คราทซิโอส หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของ ทรัมป์ ด้วย
คำสั่งซึ่งมีชื่อว่า "การรับรองความเป็นเลิศด้านอวกาศของอเมริกา" เรียกร้องให้เพนตากอนและหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ สร้างยุทธศาสตร์ความมั่นคงในอวกาศ กระตุ้นให้ผู้รับเหมาเอกชนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และขอให้มีการสาธิตเทคโนโลยีป้องกันขีปนาวุธภายใต้โครงการ 'โกลเดน โดม' ของทรัมป์
ดูเหมือนว่าคำสั่งนี้จะยกเลิกหน่วยงานประสานงานนโยบายอวกาศระดับสูงสุดของทำเนียบขาว คือ สภาอวกาศแห่งชาติ ( National Space Council) ซึ่งเป็นคณะกรรมการของสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่ประธานาธิบดีได้ฟื้นฟูขึ้นมาในวาระแรกของเขา และเคยพิจารณาที่จะยกเลิกในปีนี้
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารกล่าวว่าโครงการนี้จะไม่ถูกยกเลิก และจะยังคงอยู่ต่อไปภายใต้สำนักงานนโยบายเทคโนโลยี (Office of Technology Policy) ของทำเนียบขาว โดยมีโครงสร้างที่แตกต่างออกไป ซึ่งประธานาธิบดีจะเป็นประธานแทนรองประธานาธิบดี
เป้าหมายในการส่งมนุษย์กลับไปเยือนดวงจันทร์ก่อนสิ้นสุดการบริหารในเทอมที่ 2 ของทรัมป์ในปี 2028 นั้นคล้ายคลึงกับคำสั่งของประธานาธิบดีเมื่อปี 2019 ในวาระแรกของเขาที่ต้องการจะกลับไปดวงจันทร์อีกครั้งภายในปี 2024 ซึ่งทำให้ดวงจันทร์เป็นศูนย์กลางของนโยบายการสำรวจอวกาศของสหรัฐฯ ด้วยกรอบเวลาที่หลายคนในอุตสาหกรรมมองว่า 'ไม่สมจริง'
ความล่าช้าในการพัฒนาและการทดสอบระบบปล่อยจรวดอวกาศของนาซาและ Starship ของ SpaceX ทำให้เป้าหมายการลงจอดบนดวงจันทร์ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ
ในสมัยของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา เป้าหมายของนาซาในการส่งคนกลับไปดวงจันทร์คือปี 2028
การลงจอดบนดวงจันทร์ของนักบินอวกาศในปี 2028 จะเป็นหนึ่งในหลายๆ ภารกิจที่ถูกวางแผนไว้ภายใต้โครงการ Artemis ของนาซา เพื่อสร้างฐานที่มั่นระยะยาวบนพื้นผิวดวงจันทร์
สหรัฐฯ กำลังแข่งขันกับจีน ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ที่ปี 2030 สำหรับการส่งมนุษย์ไปลงจอดบนดวงจันทร์ครั้งแรก
คำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดี (18) ยังเรียกร้องให้ "จัดตั้งองค์ประกอบเบื้องต้นของสถานีบนดวงจันทร์ถาวรภายในปี 2030" ซึ่งเป็นการตอกย้ำเป้าหมายที่มีอยู่แล้วของนาซาในการพัฒนาฐานระยะยาวด้วยแหล่งพลังงานนิวเคลียร์
ในช่วงต้นปีนี้ ทรัมป์ ได้พูดถึงการส่งภารกิจไปยังดาวอังคารซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่ อีลอน มัสก์ ผู้บริจาครายใหญ่ซึ่งทำให้การส่งมนุษย์ไปยังดาวเคราะห์สีแดงเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ สำหรับ SpaceX เคยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาใกล้ชิด และผู้มีอำนาจในการดูแลประสิทธิภาพของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ค่อยๆ หันกลับมาให้ความสนใจกับดวงจันทร์อีกครั้ง โดยกดดันให้ ไอแซคแมน ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้อำนวยการนาซาในขณะนั้นยึดมั่นกับโครงการสำรวจดวงจันทร์ของนาซา ซึ่งได้ใช้งบประมาณไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์
ทำเนียบขาวภายใต้การนำของ มัสก์ ในการผลักดันประสิทธิภาพของรัฐบาลได้ลดจำนวนบุคลากรของนาซาลง 20% และพยายามตัดงบประมาณของหน่วยงานในปี 2026 ลงประมาณ 25% จากงบประมาณปกติ 25,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้โครงการวิทยาศาสตร์อวกาศหลายสิบโครงการที่นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่บางส่วนมองว่าเป็นโครงการสำคัญตกอยู่ในความเสี่ยง
ไอแซคแมน ซึ่งวางแผนที่จะกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกต่อเจ้าหน้าที่นาซาในวันศุกร์ (19) นี้ กล่าวว่าเขาเชื่อว่าหน่วยงานด้านอวกาศควรพยายามกำหนดเป้าหมายทั้งดวงจันทร์และดาวอังคารไปพร้อมๆ กัน โดยให้ความสำคัญกับการกลับไปลงจอดบนดวงจันทร์อีกครั้งเพื่อเอาชนะจีน
เป้าหมายการลงจอดบนดวงจันทร์ในปี 2028 ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าในการพัฒนาของยานลงจอด Starship ขนาดใหญ่ของ SpaceX ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยอดีตผู้รักษาการแทนผู้บริหารของนาซาว่าดำเนินการช้าเกินไป
ที่มา: รอยเตอร์


