เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและหัวหน้าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา มองว่าถ้าไทยไม่ได้ฝูงบินขับไล่ เมื่อนั้นทหารไทยก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชาผู้กล้าหาญ ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นในขณะที่การสู้รบตามแนวชายแดนระหว่าง 2 ฝ่ายยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด
ในความเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของไทยและการใช้เครื่องบินขับไล่ทิ้งบอมบ์ใส่เป้าหมายต่างๆในกัมพูชามานานกว่า 1 สัปดาห์ รัฐมนตรีรายนี้กล่าวแสดงความขอบคุณทหารกัมพูชาและให้กำลังใจขอให้ทำงานหนักขึ้น พร้อมอวดอ้างว่ากองทัพไทยคงจะยอมจำนนไปแล้วถ้าไม่มีเครื่องบินขับไล่ สืบเนื่องจากไร้ประสบการณ์ในการทำสงครามสู้รบต่างจากกองทัพกัมพูชา และจะมีความแตกแยกกันภายในตามมา
ข้อความที่โพสต์บนเฟซบุ๊กเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์(15ธ.ค.) นาย เขียว รามี ระบุว่า "ที่สงครามมาถึงทุกวันนี้ เรารู้ดีว่าถ้าไม่มีเครื่องบินทิ้งระเบิด ทหารไทยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา ผมอยากแสดงความเคารพต่อความกล้าหาญของกองทัพของเรา เราจะเดินหน้าสู้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็ว ทหารสยามจะไม่สามารถรุกคืบได้และจะยอมจำนนด้วยตนเอง เพราะพวกเขาไม่อาจทนต่อสงคราม ไม่ช้าก็เร็ว แน่นอนว่า พวกเขาจะเผชิญความแตกแยกกันภายใน"
เว็บไซต์ข่าว kampucheathmey กล่าวหาว่าไทยเปิดฉากโจมตีใส่กัมพูชาในช่วงบ่ายวันที่ 7 ธันวาคม โดยใช้อาวุธที่หลากหลายเล่นงานดินแดนอธิปไตย อาทิปืนใหญ่, โดรนพลีชีพ, ระเบิดคลัสเตอร์, รถถัง, แก๊สพิษและเครื่องบินขับไล่ F-16
รายงานข่าวกล่าวอ้างผิดๆว่า กองทัพไทยเริ่มใช้ F-16 โจมตีและรุกเข้าสู่ดินแดนอธิปไตยอีกรอบในวันที่ 8 ธันวาคม โจมตีไม่เลือกตั้งและทิ้งบอมบ์ใส่พื้นฐานพลเรือน(ซึ่งไม่เป็นความจริง) สังหารชาวกัมพูชา 13 รายและบาดเจ็บมากกว่า 70 คน และบีบให้ประชาชนมากกว่า 400,000 ราย ต้องหลบหนีไปยังพื้นที่ปลอดภัย
kampucheathmey อ้างอีกว่ากองทัพไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนจำนวนมาก ในนั้นรวมถึงทิ้งระเบิดตัดเส้นทางสะพานวิคตอรี บริดจ์และสะพานจัยจุมเนี้ยะ ในพื้นที่ทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ในวันที่ 13 ธันวาคม และในเช้าวันที่ 15 ธันวาคม ทิ้งบอมบ์ใส่ะพานอูรฌีก (Ou Chik) พื้นที่ชายแดนในอำเภอศรีสนาม และใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ขยายสมรภูมิรบและปิดฉากยิง ทิ้งระเบิดใกล้ค่ายผู้ลี้ภัยในศรีนาม จังหวัดเสียมราฐ
โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เน้นย้ำว่าวีรชนทหารและตำรวจกัมพูชายังคงยืนหยัดอย่างแข็งขัน กล้าหาญและต่อสู้อย่างดุเดือดกับพวกผู้รุกราน และอยู่ในความระแวดระวังทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา พร้อมระบุกัมพูชาเน้นย้ำถึงสิทธิในการปกป้องตนเอง ปกป้องดินแดนอธิปไตย ที่ระบุไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ และเพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน มาตุภูมิและประชาชนไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม กัมพูชาจะไม่ยอมจำนนต่อการบีบบังคับหรือข่มขู่ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม
(ที่มา:kampucheathmey.)


