มอสโกส่งโดรนและขีปนาวุธถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน ส่งผลให้ประชาชนกว่าล้านไม่มีไฟฟ้าใช้ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวสุดขั้ว ขณะที่เคียฟก็โจมตีแคว้นทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซียเมื่อวันเสาร์ (13 ธ.ค.) หรือหนึ่งวันก่อนนัดหมายผู้แทนพิเศษของทรัมป์พบ เซเลนสกี้ และพวกผู้นำยุโรปที่กรุงเบอร์ลินเพื่อผลักดันแผนยุติสงครามในยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อวันเสาร์ว่า สิ่งสำคัญคือทุกคนเห็นแล้วว่า สิ่งที่รัสเซียทำอยู่คือการก่อการร้ายต่อคนยูเครน ไม่ใช่การยุติสงคราม
เซเลนสกี้บอกว่า รัสเซียส่งโดรนกว่า 450 ลำและขีปนาวุธ 30 ลูกโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและท่าเรือใน 5 แคว้นของยูเครนเมื่อคืนวันเสาร์
ขณะที่ อิฮอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน สำทับว่า การโจมตีของรัสเซียส่งผลให้ประชาชนกว่า 1 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นจัด
เคียฟและพันธมิตรกล่าวหารัสเซียว่า พยายามทำลายโครงข่ายพลังงานของยูเครน และขัดขวางไม่ให้พลเมืองยูเครนเข้าถึงความร้อน แสงสว่าง และน้ำประปาในช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
ในอีกด้านหนึ่ง โรมัน บูซาร์กิน ผู้ว่าการแคว้นซาราตอฟ ของรัสเซียเผยว่า อาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่งได้รับความเสียหายและมีผู้เสียชีวิต 2 คนจากการโจมตีของยูเครน ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ยิงโดรนยูเครนที่รุกล้ำน่านฟ้าร่วง 41 ลำเมื่อคืนวันเสาร์
ทั้งนี้ นับจากเปิดเผยแผนยุติสงครามเมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินเกมกดดันเคียฟให้ยอมรับข้อตกลงซึ่งถูกวิจารณ์ว่า เข้าข้างรัสเซีย เช่น เรียกร้องให้ยูเครนยกดินแดนให้มอสโก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกระตุ้นให้พันธมิตรยุโรปต้องเร่งดำเนินมาตรการทางการทูตและร่วมมือกับเคียฟเพื่อแก้ไขปรับปรุงแผนสันติภาพของทรัมป์และส่งให้อเมริกาพิจารณาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยประเด็นสำคัญที่ยังตกลงกันไม่ได้คือ ฝ่ายใดจะได้ควบคุมภูมิภาคดอนบาส ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของยูเครน ทั้งนี้ ดอนบาสซึ่งเป็นฐานอุตสาหกรรมสำคัญตั้งแต่ยุคโซเวียต ประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์ กับแคว้นลูฮันสก์ โดยที่ลูฮันสก์ตกอยู่ในความควบคุมของรัสเซียแล้ว ขณะที่โดเนตสก์ก็ถูกกองทัพรัสเซียยึดไปราวๆ 70% แผนสันติภาพซึ่งทรัมป์เสนอนั้น เรียกร้องให้ยูเครนยอมสละดินแดนโดเนตสก์อีก 30% ที่เหลือ
ในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่า สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของทรัมป์ จะพบกับเซเลนสกี้และผู้นำยุโรปในช่วงสุดสัปดาห์ที่กรุงเบอร์ลินเพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพ
ต่อมาเมื่อคืนวันเสาร์ เซเลนสกี้ยืนยันว่า ทีมเจรจายูเครนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมดังกล่าว นอกจากนั้นตัวเขาเองจะได้พบกับผู้นำยุโรปและอีกหลายชาติเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงทางการเมืองเพื่อยุติสงคราม
ทางด้านรัฐบาลเยอรมนีเผยว่า เบอร์ลินจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำซึ่งรวมถึงผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในวันจันทร์ (15 ธ.ค.)
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า แผนสันติภาพที่ผ่านการแก้ไขเวอร์ชันล่าสุด ครอบคลุมแนวคิดในการเร่งรัดการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเร็วที่สุดในเดือนม.ค. 2027 ถึงแม้เรื่องนี้เป็นสิ่งที่มอสโกคัดค้าน เช่นเดียวกับพวกสมาชิกอียูบางชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮังการี
วันศุกร์ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสยังเปิดเผยว่า ยุโรปและเคียฟขอให้อเมริกาให้การรับประกันความมั่นคงของยูเครน ก่อนที่เคียฟจะเจรจาเรื่องดินแดน
วันเดียวกันนั้น ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยฝ่ายนโยบายต่างประเทศของเครมลิน ยืนกรานว่า มอสโกจะยอมรับข้อตกลงหยุดยิงต่อเมื่อยูเครนถอนทหารออกจากโดเนตสก์เท่านั้น นอกจากนี้ ถ้าหากแคว้นนี้ถูกกำหนดเป็นเขตปลอดทหารตามที่ระบุไว้ในข้อเสนอสันติภาพของทรัมป์ ตำรวจและกองกำลังป้องกันชาติของรัสเซียก็จะยังคงประจำการในดอนบาส ถึงแม้มีแนวโน้มว่ายูเครนมจะคัดค้านเรื่องนี้
เขายังเตือนว่า การหาทางประนีประนอมเพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพจะใช้เวลายาวนาน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ข้อเสนอของอเมริกาที่ในเวอร์ชั่นดั้งเดิมให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้องของรัสเซียนั้น ตอนนี้ได้ถูกด้อยค่าลงจากการแก้ไขดัดแปลงของเคียฟและยุโรป
(ที่มา: เอเอฟพี/เอพี)


