เอเจนซีส์ – ฟิลิปเป ลาซซารินี (Philippe Lazzarini) หัวหน้าสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ UNRWA แถลง เจ้าหน้าที่อิราเอลวานนี้(8 ธ.ค)บุกสำนักงานในยูซาเลมตะวันออก ปลดธงสหประชาชาติออกก่อนชักธงชาติอิสราเอลขึ้นแทน การสื่อสารถูกตัดขาด โดนยึดอุปกรณ์สำนักงานทั้งหมด อ้างเหตุไม่ยอมจ่ายภาษีโรงเรือน
CNN ของสหรัฐฯรายงานวันจันทร์(8 ธ.ค)ว่า ฟิลิปเป ลาซซารินี (Philippe Lazzarini) หัวหน้าสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ UNRWA แถลงผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า ตำรวจอิสราเอลมาพร้อมเจ้าหน้าที่เมืองเยรูซาเลมบุกเข้าไปด้านในที่ตั้งสำนักงาน UNRWA อย่างไม่ทันตั้งตัวพร้อมรถยกของขนย้าย
“การสื่อสารทั้งหมดถูกตัดขาด เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไอที และทรัพย์สินอื่นๆโดยยึดไปหมด” เขากล่าว
ทั้งนี้ตำรวจอิสราเอลให้สัมภาษณ์ CNN ในแถลงการณ์ เป็นปฎิบัติการที่มาจากเมืองเยรูซาเลมที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียกเก็บหนี้สิน”
และเสริมต่อว่า “ตำรวจอิราเอลอยู่ที่นั่นเพื่อคุ้มครองเจ้าหน้าที่เมือง”
ขณะที่โฆษกเมืองเยรูซาเลมให้สัมภาษณ์ CNN ว่า “เป็นกระบวนการมาตรฐานต่อใครก็ตามที่ไม่ยอมจ่ายภาษีโรงเรือนและเพิกเฉยการเตือนมาแล้วหลายหน”
“สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังการเตือนหลายครั้งและมาตรการเบื้องต้นเกี่ยวกับการสะสมของหนี้ภาษีโรงเรือนที่ค้างประมาณ 11 ล้านเชเกลอิสราเอล (3.4 ล้านดอลลาร์) ที่ค้างจ่ายมาเป็นเวลานาน” โฆษกกล่าว
ด้านโฆษกเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติออกมาตอบโต้ประเด็นค้างจ่ายภาษีแก่อิสราเอลในการแถลงสรุปวันจันทร์(8)ว่า ไม่ได้อยู่ภายใต้สนธิสัญญาที่กำกับความสัมพันธ์ระหว่างสหประชาติและประเทศสมาชิก
ขณะเดียวกันเลขาธิการใหญ่สหประชาติ อันโตนิโอ กูเตร์เรส ได้ออกโรงประณามการบุกเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตของเจ้าหน้าที่อิสราเอล โดยชี้ว่า สำนักงาน UNRWA ในเยรูซาเลมตะวันออกยังคงเป็นขององค์การสหประชาชาติที่ไม่สามารถละเมิดและได้รับภูมิคุ้มกันจากการเข้าแทรกแซงใดๆ โดยได้อ้างไปถึงภาระหน้าที่ของอิสราเอลภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติและองค์กรอื่นๆของกฎหมายระหว่างประเทศ
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า อิสราเอลที่ผ่านมากล่าวหาว่า UNRWA ให้ความช่วยเหลือฮามาส พร้อมเรียกร้องให้ปิดทั้งหมด แต่ UNRWA ออกมาปฎิเสธ
โดยในช่วงต้นวันจันทร์(8) โฆษกนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ตอบคำถามถึงการบุกสำนักงานใหญ่ของ UNRWA ว่าเป็นการพิสูจน์ถึงความล้มเหลวครั้งมโหฬารของหน่วยงาน UN นี้และถึงเวลาที่ต้องปิดลง


