จากที่เคยเยาะเย้ยไบเดนว่า “โจขี้เซา” ถึงตอนนี้ทรัมป์เองมีสภาพไม่ต่างจากคำปรามาสนั้นเท่าไหร่ โดยดูเหมือนต้องใช้ความพยายามมากในการที่จะตื่นตัวตลอดเวลาระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีของเขา
พักหลังมานี้ มีภาพโดนัลด์ ทรัมป์ เจ้าของสถิติบุคคลอายุมากที่สุดซึ่งได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั่นคือ ตอนที่มีอายุ 79 ปี หลับตาขณะพวกสมาชิกระดับสูงในทีมบริหารของเขา กำลังสรรเสริญเยินยอความเป็นผู้นำของเขา ให้เห็นกันบ่อยครั้ง ทำให้ผู้คนคาดเดาไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับสุขภาพของประมุขทำเนียบขาว แม้เจ้าตัวและเหล่าผู้ช่วยยังคงเรียงหน้าออกมาแก้ข่าวตลอดจนแถลงตอบโต้อย่างดุดัน
ในวันอังคาร (2 ธ.ค.) แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวยืนยันว่า ทรัมป์นั่งฟังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ยาวนาน 3 ชั่วโมงเต็มอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ได้งีบหลับอย่างที่สงสัยกัน พร้อมกับยกตัวอย่างด้วยการอวดอ้างว่า ตอนช่วงท้ายการประชุม ทรัมป์สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับผู้อพยพโซมาเลีย ได้อย่าง “น่าทึ่ง”
เฉียบคมกว่า 25 ปีที่แล้ว
อันที่จริง ในช่วงเริ่มประชุมวันนั้น ทรัมป์ได้ตอบโต้เสียงวิจารณ์ที่ว่า ตนเองเริ่มหมดพลัง รวมทั้งข้อสงสัยว่า สุขภาพยังดีอยู่หรือไม่ ด้วยการย้ำคำตอบเดิมๆ ของเขาที่ว่า ผลทดสอบสุขภาพทางสติปัญญาของเขาออกมา “ดีเยี่ยม” และสำทับว่า วันหนึ่งทุกคนคงหนีไม่พ้นความเสื่อมถอย แต่สำหรับตนตอนนี้รู้สึกว่า สมองเฉียบคมกว่าเมื่อ 25 ปีที่แล้วด้วยซ้ำ
ทว่า ไม่กี่นาทีให้หลังกลับปรากฏภาพทรัมป์หลับตานานหลายนาทีและหลายครั้ง ขณะที่พวกรัฐมนตรีเรียงหน้ากันบรรยายความสำเร็จของคณะบริหารชุดนี้ตลอดปีแรกของการทำงาน แม้แต่ตอนที่มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศที่นั่งติดกับทรัมป์ พูดยกย่องว่า ทรัมป์เป็น “ผู้นำคนเดียวในโลก” ที่อาจช่วยยุติสงครามในยูเครน ทรัมป์ก็ยังมีช่วงหลับตาให้เห็นกัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่ทันถึงหนึ่งเดือนหลังจากที่มีภาพทรัมป์ซึ่งอายุครบ 80 ปีเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดูเหมือนนั่งหลับตาเช่นกัน ระหว่างการแถลงข่าวในห้องทำงานรูปไข่เกี่ยวกับเรื่องการลดราคายาในสหรัฐฯ
ประเด็นสุขภาพของทรัมป์ถูกจับจ้องมากขึ้นตอนปลายเดือนที่แล้ว หลังจากบทความชิ้นหนึ่งของนิวยอร์กไทมส์ตั้งข้อสังเกตว่า ทรัมป์ออกงานน้อยลงอย่างมาก อีกทั้งยังลดการเดินทางในประเทศและลดเวลาทำงาน เมื่อเทียบกับตอนรับตำแหน่งสมัยแรก
โชว์ผลการตรวจเอ็มอาร์ไอ
ทรัมป์เดือดจัดกับ “บทความใส่ร้าย” ดังกล่าว ขณะที่เลวิตต์ลงทุนปรินต์ข่าวเก่าของนิวยอร์กไทมส์มาชูระหว่างการแถลงข่าวในสัปดาห์นี้เพื่อตอบโต้ว่า ในสมัยที่ โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดี สื่อทรงอิทธิพลรายนี้ได้เคยพยายามกลบเกลื่อนความกังวลและปิดบังเกี่ยวกับสุขภาพของไบเดน
ที่ผ่านมา ทรัมป์ชอบเปรียบเทียบความฟิตของตัวเองกับไบเดน ที่ต้องประกาศถอนตัวจากการสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีในนามพรรคเดโมแครตขณะอายุ 81 ปี หลังจากโชว์ผลงานดีเบตย่ำแย่และทำให้คนกังวลเกี่ยวกับอายุ รวมทั้งสุขภาพร่างกายและสติปัญญาของเขา
สุขภาพของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มักเป็นที่สนใจของทั่วโลกอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากภารกิจสำคัญมากมายที่มาพร้อมกับตำแหน่งนี้ มาถึงตอนนี้สปอตไลต์กำลังฉายส่องกลับมาที่ตัวทรัมป์
ทรัมป์ถูกล้อเลียนหนักเรื่องดูเหมือนนั่งหลับระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะจากรายการทอล์กโชว์ยามดึก โดยที่ จิมมี คิมเมล พิธีกรชื่อดังที่สุดของรายการประเภทนี้ในเวลานี้ รวมทั้งยังเป็นไม้เบื่อไม้เมากับทรัมป์มายาวนาน ได้โชว์คลิปทรัมป์นั่งหลับตา และหยอกว่า “ช่วยบอกอีกทีได้ไหมว่า โจขี้เซาเป็นยังไง”
นอกจากนั้นบรรดาผู้ใช้โซเชียลมีเดียก็ตั้งข้อสงสัยว่า ทรัมป์เหนื่อยไหมหลังลงโพสต์รัวกว่า 160 โพสต์ในช่วงดึกวันจันทร์จนถึงเช้าวันอังคาร แม้รู้ดีว่า แท้จริงแล้วผู้โพสต์คือเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวก็ตาม
ทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการที่ทรัมป์ไม่เปิดเผยข้อมูลสุขภาพของตนเองอย่างโปร่งใส
อย่างไรก็ดี หลังจากถูกซักถามเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพประจำปีครั้งที่ 2 ในโรงพยาบาลเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการสแกนด้วยเครื่องเอ็มอาร์ไอ แพทย์ประจำตัวของทรัมป์ออกมายืนยันในสัปดาห์นี้ว่า การตรวจสุขภาพเชิงป้องกันพบว่า สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของทรัมป์ “ดีเยี่ยม”
(ที่มา: เอเอฟพี)


