xs
xsm
sm
md
lg

'ทรัมป์' ขีดเส้นตาย 1 สัปดาห์ให้ยูเครนรับแผนสันติภาพ 28 ข้อ เพื่อจบสงครามกับรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเอ่ยเตือนเมื่อวันศุกร์ (21 พ.ย.) ว่า ยูเครนเสี่ยงที่จะต้องสูญเสียทั้งศักดิ์ศรีและเสรีภาพ รวมไปถึงการสนับสนุนจากวอชิงตัน จากแผนสันติภาพของสหรัฐฯ ที่รับรองข้อเรียกร้องสำคัญๆ ของรัสเซีย ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุว่าเคียฟควรยอมรับภายใน 1 สัปดาห์

ผู้นำสหรัฐฯ บอกกับฟ็อกซ์นิวส์เรดิโอว่า เขาเชื่อว่าวันพฤหัสบดี (27) คือกำหนดเส้นตายที่เหมาะสมสำหรับเคียฟในการยอมรับแผนดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการยืนยันสิ่งที่แหล่งข่าว 2 รายบอกกับรอยเตอร์

ต่อมา ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เวลาเหลือน้อยเนื่องจากฤดูหนาวกำลังจะมาถึง และจำเป็นต้องยุติการนองเลือด ซึ่ง เซเลนสกี จะต้องให้การรับรองแผนนี้

“เขาจะต้องชอบมัน และถ้าเขาไม่ชอบ คุณก็รู้ พวกเขาก็คงจะต้องสู้ต่อไป ผมเดา” ทรัมป์ กล่าว

“สักวันหนึ่ง เขาก็จะต้องยอมรับในสิ่งที่เขาไม่เคยยอมรับ”

ทรัมป์ อ้างไปถึงการพบปะอันตึงเครียดกับ เซเลนสกี ในเดือน ก.พ. ว่า "คุณจำได้ใช่ไหม ในห้องทำงานรูปไข่ เมื่อไม่นานมานี้ ผมเคยพูดว่า 'คุณไม่มีไพ่ในมือ'"

แผน 28 ประการของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ยูเครนยอมสละดินแดนดอนบาสทางตะวันออก ยอมรับข้อจำกัดทางทหาร และละทิ้งความทะเยอทะยานที่จะเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ร่างแผนดังกล่าวยังมีข้อเสนอบางประการที่รัสเซียอาจคัดค้าน และกำหนดให้กองทัพมอสโกถอนกำลังออกจากพื้นที่บางส่วนที่พวกเขายึดครองไว้ ตามร่างที่รอยเตอร์ได้เห็น

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งปฏิเสธที่จะยอมผ่อนปรนข้อเรียกร้องสำคัญด้านดินแดนและความมั่นคงของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ (21) ว่า แผนของสหรัฐฯ อาจเป็นพื้นฐานสำหรับทางออกสุดท้ายของความขัดแย้งที่ดำเนินมาเกือบ 4 ปี เขายังบอกด้วยว่าเคียฟคัดค้านแผนดังกล่าว ทว่าทั้งยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปต่างก็ไม่เข้าใจถึงความเป็นจริงว่ารัสเซียรุกคืบในยูเครนไปถึงขั้นไหนแล้ว

เซเลนสกี ซึ่งเคยปฏิเสธเงื่อนไขของแผนนี้ในอดีตว่าเป็นการยอมจำนน ได้วิงวอนขอเอกภาพจากชาวยูเครน และกล่าวว่าเขาจะไม่มีวันทรยศต่อยูเครน

“ตอนนี้ยูเครนอาจต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากอย่างยิ่ง — ไม่ว่าจะสูญเสียศักดิ์ศรีหรือเสี่ยงต่อการสูญเสียพันธมิตรหลัก” เขากล่าวในสุนทรพจน์ต่อประเทศชาติ พร้อมเสริมว่า “ผมจะต่อสู้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อให้แน่ใจว่าอย่างน้อย 2 ประเด็นในแผนนี้จะไม่ถูกมองข้าม — นั่นคือศักดิ์ศรีและเสรีภาพของชาวยูเครน”

คิริลล์ ดมิตรีเยฟ ทูตด้านการลงทุนของปูติน กล่าวเมื่อวันศุกร์ (21) ว่า แผนของสหรัฐฯ มุ่งเป้าไปที่การป้องกันการเสียชีวิตและการสูญเสียดินแดนของยูเครนเพิ่มเติม

แหล่งข่าวหลายคนให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า แผนนี้เป็นผลมาจากการสนทนาในทางลับระหว่าง ดมิตรีเยฟ และ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ซึ่งเป็นทูตพิเศษของทรัมป์

"เพราะการโฆษณาชวนเชื่อของพวกคลั่งสงคราม หลายคนจึงมองข้ามข้อเท็จจริงว่าแผนสันติภาพของ ทรัมป์ ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องยูเครนจากการสูญเสียดินแดนและชีวิตไปมากกว่านี้" ดมิตรีเยฟ เขียนเป็นภาษาอังกฤษบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X

แหล่งข่าว 2 รายบอกกับรอยเตอร์ว่า สหรัฐฯ ขู่ว่าจะตัดการแบ่งปันข่าวกรองและการจัดหาอาวุธให้ยูเครน หากไม่ยอมรับข้อตกลง แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ คนหนึ่งออกมาแก้ข่าวในภายหลังว่า การพูดว่าสหรัฐฯ ขู่จะระงับข่าวกรองนั้น "ไม่ถูกต้อง"

เซเลนสกี ซึ่งได้พูดคุยกับผู้นำของสหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส รวมถึงรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (21) ดูเหมือนจะระมัดระวังที่จะไม่ด่วนปฏิเสธแผนของสหรัฐฯ หรือทำให้ชาวอเมริกันขุ่นเคือง

"เราให้คุณค่ากับความพยายามของสหรัฐฯ ประธานาธิบดี ทรัมป์ และทีมงานของเขาที่มุ่งหมายจะยุติสงครามครั้งนี้" เซเลนสกี กล่าว "นี่ต้องเป็นแผนที่จะรับประกันสันติภาพที่แท้จริงและสมศักดิ์ศรี"

ข้อตกลงที่เป็นผลร้ายต่อยูเครนอาจกลายเป็นบททดสอบเสถียรภาพของสังคม หลังจากสงครามที่ดุเดือดมาเกือบ 4 ปี

“รัสเซียได้ทุกอย่างที่ต้องการ แต่ยูเครนกลับไม่ได้มากนัก” ทิม แอช จากสถาบันวิจัย Chatham House ของอังกฤษกล่าว “หาก เซเลนสกี ยอมรับเรื่องนี้ ผมคาดการณ์ว่าจะเกิดความไม่มั่นคงทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในยูเครน”

คาดว่าแผนของสหรัฐฯ จะเป็นประเด็นสำคัญในการหารือคู่ขนานระหว่างการประชุมสุดยอด G20 ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ซึ่งพวกผู้นำยุโรปจะเข้าร่วมในสุดสัปดาห์นี้ แม้ว่า ทรัมป์ จะคว่ำบาตรก็ตาม

แหล่งข่าว 3 รายบอกกับรอยเตอร์ว่า ยูเครนกำลังดำเนินการร่างข้อเสนอโต้แย้งแผน 28 ประการของ ทรัมป์ เพื่อเสนอต่ออังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐฯ ไม่ได้หารือฝ่ายยุโรปเกี่ยวกับแผนสันติภาพของเขา และยุโรปยังคงแสดงการสนับสนุนเคียฟอย่างแข็งขัน

ที่มา: รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น