ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี(20พ.ย.) หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กดดันให้ยูเครนตอบรับข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย ให้ยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบเช่นเดียวกับทองคำ ท่ามกลางข้อมูลภาคแรงงานที่ผสมผสาน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 59.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 13 เซนต์ ปิดที่ 63.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อเสนอสันติภาพสหรัฐฯ-รัสเซีย ในนั้นรวมถึงการที่ยูเครนยอมสละดินแดนแก่รัสเซีย และลดกำลังทหารของยูเครน 2 เงื่อนไขที่ทางประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เคยปฏิเสธก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามในวันพฤหัสบดี(20พ.ย.) เซเลนสกี บอกว่าเขาจะพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว และหารือกับสหรัฐฯเกี่ยวกับแผนสันติภาพ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบในวันพฤหัสบดี(20พ.ย.) แกว่งตัวจากที่ดีดตัวขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย จากความกังวลมูลค่าสูงเกินจริงในกลุ่มเทคโนโลยีและข้อมูลภาคแรงงานที่ผสมผสาน
ดาวโจนส์ ลดลง 386.51 จุด (1.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 45,752.26 เอสแอนด์พี ลดลง 103.40 จุด (1.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,538.76 จุด แนสแดค ลดลง 486.18 จุด (2.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 22,078.05 จุด
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับมูลค่าที่พุ่งสูงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการใช้จ่ายที่สูงลิ่วในด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยเวลานี้ แนสแดค ดิ่งลงอย่างแรงจากระดับสูงสุดในเดือนตุลาคม
ข้อมูลพบว่าตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน แม้ขณะเดียวกันมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่พวกนักเศรษฐศาสตร์คาดหมายไว้ เวลานี้นักลงทุนมองว่ามีโอกาสมากกว่าเดิมที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
ส่วนราคาทองคำขยับลงในวันพฤหัสบดี(20พ.ย.) นักลงทุนทบทวนข้อมูลภาคแรงงานของสหรัฐฯประจำเดือนกันยายน ที่เผยให้เห็นว่ามีการจ้างงานมากกว่าที่คาด แต่ตัวเลขคนว่างงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 0.60% ปิดที่ 4,060.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)


