สหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณไปยังประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ว่ายูเครนต้องยอมรับกรอบการทำงานที่สหรัฐฯ ร่างขึ้นเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย ซึ่งระบุให้เคียฟต้องยอมสละดินแดนและอาวุธบางส่วน ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว
แหล่งข่าว 2 รายซึ่งไม่ประสงค์ออกนามให้ข้อมูลกับรอยเตอร์วานนี้ (19 พ.ย.) ว่า ข้อเสนอของสหรัฐฯ ยังรวมถึงการลดขนาดกองทัพยูเครนและอื่นๆ ซึ่งวอชิงตันต้องการให้เคียฟยอมรับในประเด็นหลักๆ เหล่านี้
แผนนี้จะถือได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของฝ่ายยูเครนซึ่งกำลังถูกรัสเซียรุกคืบยึดดินแดนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในภาคตะวันออก และรัฐบาล เซเลนสกี เองก็กำลังเผชิญกับมรสุมข่าวฉาวเรื่องการทุจริตคอรัปชัน โดยเมื่อวันพุธ (19) รัฐสภายูเครนเพิ่งจะสั่งปลดรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและกระทรวงยุติธรรมออกจากตำแหน่ง
ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวผ่าน X ว่า วอชิงตัน "จะยังคงปรับปรุงแนวทางต่างๆ ที่เป็นไปได้สำหรับการยุติสงคราม โดยจะรับฟังข้อมูลจากคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย"
“การยุติสงครามที่ซับซ้อนและนองเลือดเช่นที่เกิดขึ้นในยูเครนนั้นจำเป็นต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่จริงจังและสมเหตุสมผลอย่างกว้างขวาง และการบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนนั้นจำเป็นต้องอาศัยการยอมรับเงื่อนไขที่ยากลำบาก แต่จำเป็น” รูบิโอ กล่าว
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนรายหนึ่งกล่าวกับรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ว่า เคียฟได้รับ “สัญญาณ” บางอย่างเกี่ยวกับข้อเสนอยุติสงครามชุดหนึ่งที่สหรัฐฯ ได้หารือกับฝ่ายรัสเซียแล้ว ทว่ายูเครนไม่ได้มีบทบาทใดๆ ในการร่างข้อเสนอเหล่านี้
เซเลนสกี ซึ่งกำลังเจรจากับประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกีเมื่อวันพุธ (19) มีกำหนดพบปะกับเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ที่เคียฟในวันพฤหัสบดี (20)
ในความคิดเห็นบนเทเลแกรม เซเลนสกี ไม่ได้กล่าวถึงกรอบการทำงานของวอชิงตัน แต่เรียกร้องให้สหรัฐฯ แสดงบทบาทผู้นำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยยุติสงครามที่ดำเนินมานานกว่า 3 ปีครึ่ง
“สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยยับยั้งการนองเลือดและบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนก็คือ การที่เราทำงานร่วมกันกับพันธมิตรทุกฝ่าย และสหรัฐฯ ยังคงความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพและเข้มแข็ง” เซเลนสกี โพสต์ข้อความหลังจากพบกับ แอร์โดอัน ที่กรุงอังการา
เซเลนสกี ย้ำว่า มีเพียงสหรัฐฯ และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เท่านั้น “ที่มีกำลังเพียงพอที่จะทำให้สงครามยุติลงในที่สุด”
ประธานาธิบดียูเครนยังกล่าวอีกว่า แอร์โดอันได้เสนอรูปแบบการเจรจาที่แตกต่างออกไป “และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่ตุรกีจะต้องพร้อมจัดเวทีหารือที่จำเป็น”
สัญญาณการผลักดันอีกครั้งของรัฐบาล ทรัมป์ เพื่อยุติสงครามกระตุ้นให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลยูเครนพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาในวันพุธ (19)
รัสเซียและยูเครนไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่พูดคุยแบบตัวต่อตัวนับตั้งแต่การประชุมที่อิสตันบูลในเดือน ก.ค. และกองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้ารุกคืบต่อในสงครามที่ดำเนินมาเกือบ 4 ปีในยูเครน โดยมีรายงานว่าการสู้รบส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในยูเครนอย่างน้อย 25 รายเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
ความพยายามฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพดูเหมือนจะเริ่มมีแรงผลักดันมากขึ้น แม้มอสโกจะยังไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการยุติสงครามก็ตาม
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเรียกร้องให้เคียฟล้มเลิกความพยายามที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่นำโดยสหรัฐฯ และให้ยูเครนถอนกำลังทหารออกจาก 4 แคว้นที่มอสโกอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมานานแล้ว
มอสโกไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ว่าจะยกเลิกข้อเรียกร้องเหล่านี้ ขณะที่ยูเครนเองก็ยืนยันเสียงแข็งว่าจะไม่ยอมรับ
ปัจจุบันรัสเซียควบคุมดินแดนยูเครนอยู่ประมาณ 19% และยังคงรุกคืบอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนบ่อยครั้งในขณะที่ฤดูหนาวกำลังจะมาถึง
ตุรกีซึ่งเป็นรัฐสมาชิกนาโตที่ใกล้ชิดกับทั้งเคียฟและมอสโกได้เป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาสันติภาพรอบแรกในช่วงสัปดาห์แรกของสงครามเมื่อปี 2022 ซึ่งเป็นการเจรจาเพียงครั้งเดียว จนกระทั่งในปีนี้ที่ ทรัมป์ ริเริ่มความพยายามครั้งใหม่เพื่อยุติการสู้รบ
เครมลิน ระบุว่า รัสเซียจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมการเจรจาที่กรุงอังการาในวันพุธ (19) แต่ ปูติน เปิดกว้างที่จะหารือกับสหรัฐฯ และตุรกีเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการหารือ
เมื่อวันพุธ (19) เว็บไซต์ข่าว Axios อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ทราบเรื่องโดยตรงว่า กรอบการทำงานใหม่ของสหรัฐฯ คาดหวังให้เคียฟยอมสละดินแดนทางตะวันออกบางส่วนที่ปัจจุบันไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนให้แก่มอสโก เพื่อแลกกับการรับประกันความมั่นคงจากสหรัฐฯ ต่อเคียฟและยุโรปจากการรุกรานของรัสเซียในอนาคต
นักการทูตยุโรปคนหนึ่งซึ่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอใหม่ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อเสนอเหล่านี้อาจเป็นความพยายามอีกครั้งของรัฐบาลทรัมป์ "ที่จะผลักดันเคียฟให้จนมุม" พร้อมเสริมว่าจะต้องไม่มีทางออกใดที่ไม่คำนึงถึงจุดยืนของยูเครนหรือพันธมิตรของวอชิงตันในยุโรป
นักการทูตยุโรปอีกคนหนึ่งชี้ว่า ข้อเสนอให้ยูเครนลดขนาดกองทัพดูเหมือนจะเป็นข้อเรียกร้องของฝ่ายรัสเซียมากกว่าจะเป็นข้อเสนอที่จริงจัง
สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเคียฟแถลงว่า คณะผู้แทนสหรัฐฯ นำโดย แดเนียล ดริสคอลล์ รัฐมนตรีว่าการทบวงทหารบกสหรัฐฯ กำลังปฏับัติ "ภารกิจค้นหาข้อเท็จจริง" อยู่ที่เมืองหลวงยูเครน โดยมีพลเอก แรนดี จอร์จ ประธานเสนาธิการทหารบก ร่วมอยู่ในคณะผู้แทนด้วย และ จอร์จ กับ ดริสคอลล์ จะพบกับประธานาธิบดี เซเลนสกี ในวันพฤหัสบดี (20) ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว
ที่มา: รอยเตอร์


