ตัวเลขการจัดซื้อทองคำที่ไม่ได้แจ้งของจีน อาจสูงกว่าข้อมูลอย่างเป็นทางการกว่า 10 เท่า ในขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังพยายามอย่างลับๆในการกระจายความเสี่ยง หันเหออกจากดอลลาร์สหรัฐฯ จากความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ พร้อมชี้ว่าบ่อเกิดอุปสงค์อย่างลับๆดังกล่าว คือต้นตอที่ผลักให้ราคาโลหะมีค่าชนิดนี้ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ในรายงานที่ผยแพร่ต่อสาธารณะ ธนาคารกลางจีนระบุว่าตัวเลขการซื้อทองคำลดลงในปีนี้ โดยเฉพาะใน 3 เดือนหลัง มีการซื้อทองคำเพียง 1.9 ตัน ในเดือนสิงหาคม, 1.9 ตันในเดือนกรฏาคม และ 2.2 ตันในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามมีผู้คนเล็กน้อยในตลาดที่เชื่อถือในตัวเลขอย่างเป็นทางการดังกล่าว
พวกนักวิเคราะห์จาก Societe Generale อ้างอิงข้อมูลการซื้อชาย เชื่อว่าการซื้อทองคำโดยรวมของจีน อาจแตะระดับมากสุดถึง 250 ตันในปีนี้ มากกว่า 1 ใน 3 ของอุปสงค์รวมของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก
ปริมาณการซื้อมหาศาลที่ไม่ได้แจ้งของจีน เน้นย้ำถึงปัญหาความท้าทายที่พวกเทรดเดอร์ต้องเผชิญ ในความพยายามค้นหาคำตอบว่าแนวโน้มราคาทองคำจะไปในทิศทางไหน ในขณะที่ตลาดแห่งนี้เพิ่มตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของการจัดซื้อโดยธนาคารกลางชาติต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ
"จีนกำลังซื้อทองคำ ส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ลดพึ่งพิงดอลลาร์ของพวกเขา" เจฟฟ์ เคอร์รี หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ของ Carlyle กล่าว พร้อมระบุว่าเขาไม่ขอคาดเดาว่าธนาคารประชาชนจีน(PBOC) กำลังซื้อทองคำในปริมาณมากมายมหาศาลแค่ไหน "ต่างจากน้ำมัน ที่คุณสามารถติดตามมันได้ผ่านดาวเทียม ทองคำคุณไม่สามารถทำได้ ไม่มีทางรู้เลยว่าทองเหล่านี้ไปไหน และใครเป็นคนซื้อมัน"
"ในปีนี้ ผู้คนไม่เชื่อจริงๆกับตัวเลขอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับจีน" บรูซ อิเคมิซุ ผู้อำนวยการสมาคมตลาดทองคำญี่ปุ่นกล่าว ในขณะที่เขาเชื่อว่าคลังสำรองทองคำของจีนในปัจจุบัน เวลานี้แตะระดับใกล้ๆ 5,000 ตัน หรือราว 2 เท่าของระดับที่รายงานต่อสาธารณะ
ธนาคารกลางประเทศต่างๆกำลังซื้อทองคำในปริมาณมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระตุ้นให้ราคาโลหะมีค่าชนิดนี้พุ่งเหนือ 4,300 ดอลาร์ต่อออนซ์ และข้อมูลจากสภาคองคำโลก พบว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สัดส่วนคลังสำรองทองคำทั่วโลกนอกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 26% ทำให้ทองคำกลายเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากดอลลาร์สหรัฐฯ
รายงานข่าวเกี่ยวกับการซุ่มเงียบซื้อทองคำของจีน มีขึ้นในขณะที่ประเทศต่างๆเริ่มไม่ค่อยรายงานการจัดซื้อทองคำไปยังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)กันแล้ว ในขณะที่กองทุนแห่งนี้จะคอยรวบรวมข้อมูลต่างๆบนพื้นฐานของความสมัครใจ
(ที่มา:ไฟแนนเชียลไทม์ส)


