รัสเซียและจีน โดยพื้นฐานแล้ว ถือว่าละทิ้งการใช้สกุลเงินตะวันตกในการค้าขายระหว่างกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการชำระเงินแทบทั้งหมดระหว่าง 2 ชาติ ดำเนินการในรูปแบบรูเบิลและหยวน จากคำกล่าวอ้างของ แอนทอน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซียเมื่อวันอังคาร(4พ.ย.)
ซิลูอานอฟ กล่าวอ้างว่า 99.1% ของการชำระเงินระหว่าง 2 ประเทศ เวลานี้ดำเนินการโดยใช้สกุลเงินของตนเอง พร้อมระบุว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเปิดทางให้รัสเซียและจีน หลีกเลี่ยงโครงสร้างพื้นฐานต่างชาติที่ไม่เป็นมิตร อ้างถึงระบบธนาคารที่มีพื้นฐานสกุลเงินดอลลาร์และยูโร
"ก่อนหน้านี้ จะเป็นการชำระเงินในรูปแบบดอลลาร์และยูโร โดยเงินจะถูกส่งผ่านบรรดาธนาคารต่างตะวันตก แต่การชำระเงินลักษณะนี้อาจหยุดลงในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง" ซิลูอานอฟกล่าว ระหว่างการประชุมพูดคุยด้านการเงินระหว่างรัสเซียกับจีนในกรุงปักกิ่ง
ก่อนหน้านี้ไม่นานรัฐบาลรัสเซีย เพิ่งปรับเพิ่มการประเมินการชำระเงินระหว่างมอสโกกับปักกิ่ง โดยใช้สกุลเงินท้องถิ่น จากสัดส่วน 90% เป็น 95% ขณะที่ ซิลูอานอฟ ระบุว่าภารกิจในตอนนี้ก็คือมุ่งมั่นรักษาความสำเร็จนี้เอาไว้ และขยายขอบเขตความร่วมมือเพิ่มเติม
คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ มิคฮาอิล มิซูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย พบปะกับ หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ในหางโจว หารือกันเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและพลังงาน
รัสเซียและจีนยกระดับความร่วมมือเข้มข้นขึ้น นับตั้งแต่ความขัดแย้งยูเครนลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ปักกิ่งกลายมาเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย หลังจากตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานมอสโกอย่างครอบคลุม ทั้ง 2 ประเทศให้คำจำกัดความความสัมพันธ์ระหว่างกันว่าเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ไร้ขีดจำกัด
มอสโกประณามมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว อ้างว่าดอลลาร์สหรัฐฯถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลงโทษ ในเดือนกรกฏาคม เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่าแนวทางดังกล่าวได้กัดกร่อนความไว้เนื้อเชื่อใจของโลกที่มีต่อดอลลาร์ ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองในฐานะหนทางที่น่าเชื่อถือในการชำระเงินระหว่างประเทศ
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)


