xs
xsm
sm
md
lg

เครื่องบินขนส่ง UPS ตกที่เคนทักกี ทำไฟไหม้ใหญ่ศูนย์อุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้เคียง เสียชีวิตแล้ว 9 โดยคนที่บนเครื่อง 3 ดับยกลำ ผู้ว่าฯเผยสุดสยอง เฉียดตายเพิ่มอีกหลายร้อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ลูกไฟขนาดใหญ่ปะทขึ้นในพื้นที่อุตสาหกรรมซึ่งอยู่ใกล้ๆ ท่าอากาศยาน หลังจากเครื่องบินขนส่งสินค้าแบบลำตัวกว้างลำหนึ่งของยูพีเอส ตกโหม่งโลกขณะบินขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี ของสหรัฐฯ เมื่อตอนค่ำวันอังคาร (4 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมทั้งตายตกลำ 3 คนบนเครื่องบิน และยังมีผู้บาดเจ็บทางภาคพื้นดินอีก 11
เครื่องบินขนส่งสินค้าแบบลำตัวกว้างลำหนึ่งของ ยูพีเอส บริษัทขนส่งพัสดุยักษ์ระดับโลก ตกลงโหม่งโลกเมื่อวันอังคาร (4 ต.ค.) และระเบิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ ไม่นานหลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี ของสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 9 คน รวมถึงทั้ง 3 คนที่อยู่บนเครื่อง



เปลวเพลิงที่เกิดจากเหตุเครื่องบินตกเมื่อตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เป็นชนวนทำให้เกิดอัคคีภัยต่อเนื่องเป็นสายในพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ติดต่อกับท่าอากาศยาน โดยมีอาคารจำนวนมากไฟลุกไหม้ มีควันดำโขมงแน่นหนาพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า และบังคับให้ทางการต้องประกาศระงับเที่ยวบินขึ้นลงตลอดทั้งคืนวันอังคาร พวกเจ้าหน้าที่เผย

ท่าอากาศยานหลุยส์วิลล์ ซึ่งถือเป็นบ้านของ ยูพีเอส เวิลด์พอร์ต -ศูนย์ใหญ่ระดับโลกสำหรับการการดำเนินการด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศของยูพีเอส รวมทั้งเป็นสถานที่ดำเนินการเกี่ยวกับพัสดุภัณฑ์ทั่วโลกซึ่งใหญ่ที่สุดของบริษัทแห่งนี้ ได้รับการคาดหมายว่าจะเปิดขึ้นมาได้ใหม่ในเช้าวันพุธ (5)

ทั้งนี้ในคืนวันอังคาร รันเวย์ 2 แห่งของสนามบินแห่งนี้มีเศษซากจากเหตุเครื่องบินตกกระจายอยู่กลาดเกลื่อน

ขณะที่ ยูพีเอส ประกาศเตือนภัยในคืนวันอังคารว่า กำหนดการจัดส่งสำหรับพัสดุภัณฑ์ส่งทางอากาศและพัสดุภัณฑ์นานาชาติ “อาจจะได้รับความกระทบกระเทือน” จากเหตุร้ายครั้งนี้ แต่ก็กล่าวเสริมว่า มีแผนการฉุกเฉินอยู่แล้วสำหรับช่วยเหลือทำให้เกิดความมั่นใจว่าการขนส่งจะไปถึงที่หมายสุดท้ายได้อย่างรวดเร็วเท่าที่เงื่อนไขต่างๆ จะอนุญาตให้ทำได้

เครื่องบินแบบ 3 เครื่องยนต์ลำนี้เติมน้ำมันเชื้อเพลิงเอาไว้สำหรับเที่ยวบินไปยังเมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย ที่ต้องใช้เวลาราว 8 ชั่วโมงครึ่ง บนเครื่องมีลูกเรือ 3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีใครรอดชีวิตเลย

ทางด้าน เคร็ก กรีนเบิร์ก นายกเทศมนตรีเมืองหลุยส์วิลล์ แถลงในช่วงเช้าวันพุธว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 9 คนในสถานที่เครื่องบินตก เพิ่มขึ้นจากที่เขาแถลงข่าวตอนดึกวันอังคารว่าทางภาคพื้นดินมีคนตาย 4 คน ซึ่งเมื่อรวมกับคนบนเครื่อง ก็หมายความว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 คน

แอนดี เบเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้

เจ้าหน้าที่หลายรายระบุว่า มีเหยื่อ 11 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลตั้งแต่วันอังคาร เจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า ยังมีอีกอย่างน้อย 10 คนที่ยังค้นหากันไม่พบ ส่วนเบเชียร์บอกกับโทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บมี 2 คนอาการยังคงหนักมาก

ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี ยังกล่าวว่า เหตุการณ์อาจจะเลวร้ายไปยิ่งกว่านี้อีก เพราะเครื่องบินตกห่างจากภัตตาคารที่มีบาร์เครื่องดื่มด้วยเพียงนิดเดียว รวมทั้งอยู่ใกล้มากจากโรงงานรถยนต์ฟอร์ดขนาดใหญ่ที่มีคนงานหลายร้อยคน ตลอดจนใกล้มากจากศูนย์ประชุมของเมืองซึ่งกำลังจัดงานโชว์ปศุสัตว์ขนาดใหญ่ที่ผู้คนกำลังทยอยเดินทางเข้าร่วม

เหตุครั้งนี้ถือเป็นการตกของเครื่องบินขนส่งสินค้าของยูพีเอสครั้งแรกภายหลังจากเดือนสิงหาคม 2013 โดยในคราวนั้นเครื่องบินแอร์บัสลำหนึ่งของบริษัทได้ตกโหม่งพื้นขณะเข้าใกล้เพื่อร่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองเบอร์มิงแฮม รัฐแอละแบมา ซึ่งลูกเรือ 2 คนเสียชีวิตทั้งคู่

สถานีโทรทัศน์ WLKY ที่เป็นสื่อในเครือ CBS ได้เผยแพร่ภาพวิดีโอเหตุการณ์เครื่องบินตก โดยพบว่าเกิดไฟไหม้ที่ปีกข้างหนึ่งขณะที่เครื่องทะยานขึ้นฟ้า ก่อนที่มันจะตกกระแทกพื้นและระเบิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่

จากนั้นอาคารหลายหลังในเขตอุตสาหกรรมที่อยู่นอกรันเวย์ก็เกิดเพลิงไหม้ โดยมีกลุ่มควันดำหนาทึบลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าในช่วงค่ำ

ผู้ว่าเบเชียร์แถลงว่า อาคารทางภาคพื้นดินที่ได้รับความเสียหายด้วย มีทั้งศูนย์รีไซเคิลน้ำมันปิโตรเลียม และกิจการธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์แห่งหนึ่ง

ทางด้านสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ระบุในถ้อยแถลงว่า "เที่ยวบิน 2976 ของ UPS ตกประมาณ 17:15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคารที่ 4 พ.ย. หลังจากออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติหลุยส์วิลล์ มูฮัมหมัด อาลี ในรัฐเคนทักกี" เพื่อมุ่งหน้าไปยังโฮโนลูลู

คำถามสำคัญข้อหนึ่งสำหรับคณะเจ้าหน้าที่สอบสวนเหตุการณ์คราวนี้ ก็คือ ทำไมเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งจึงดูเหมือนแยกออกมาจากเครื่องบินก่อนที่มันจะโหม่งโลก บุคคลผู้หนึ่งที่ได้รับฟังการบรรยายสรุปเหตุการณ์คราวนี้กล่าว พร้อมกับชี้ไปที่ภาพวิดีโอซึ่งบันทึกภาพเศษซากต่างๆ บนสนามบิน

ขณะที่สาเหตุและต้นตอของการเกิดไฟไหม้บนเครื่องบินก่อนที่มันจะตก ก็เป็นสิ่งที่ยังไม่ทราบกัน

จอห์น ค็อกซ์ ซึ่งเป็นทั้งนักบินและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศของสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า การสอบสวนจำเป็นต้องพิจารณาคำถามที่ว่า ทำไมเครื่องบินลำนี้ซึ่งมี 3 เครื่องยนต์ จึงบินต่อไปไม่ได้หลังจากเครื่องหนึ่งดูเหมือนเกิดไฟไหม้ ในเมื่อยังมีอีก 2 เครื่องยนต์ เขาบอกด้วยว่า ไฟที่เกิดขึ้นก็ดูมีขนาดใหญ่เกินกว่าไฟไหม้จากเครื่องยนต์ตามปกติ

ไฟไหม้ทางภาคพื้นดินลุกฮืออยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยที่ทางการต้องเตือนภัยให้ผู้คนที่อยู่ภายในรัศมี 5 ไมล์ (8 กิโลเมตร) รอบๆ ที่เกิดเหตุ อยู่แต่ภายในอาคารเพื่อป้องกันภัยที่อาจเกิดจากอากาศเป็นพิษ ในเวลาต่อมา พื้นที่ซึ่งกำหนดให้ต้องอยู่ภายในอาคารได้ลดลงเหลือเพียง 1 ไมล์

จากบันทึกของ FAA ระบุว่า เครื่องบินที่ตกเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า MD-11 มีอายุใช้งาน 34 ปี

บริษัทโบอิ้ง ซึ่งได้ยุติโครงการ MD-11 หลังจากเข้าซื้อกิจการจากการควบรวมกิจการกับแมคดอนเนลล์ ดักลาส กล่าวว่า บริษัทมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด และจะให้การสนับสนุนทางเทคนิคในการสอบสวน

Flightradar24 ระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งเริ่มดำเนินการกับ UPS ในปี 2006 ได้บินจากเมืองหลุยส์วิลล์ไปยังบัลติมอร์เมื่อเช้าวันอังคาร (4) ก่อนที่จะบินกลับไปยังเมืองหลุยส์วิลล์ ส่วนเที่ยวบินจากหลุยส์วิลล์ไปยังโฮโนลูลูปกติแล้วจะใช้เวลาบินราวๆ 8 ชั่วโมงครึ่ง

เครื่องบินได้ไต่ระดับขึ้นไปที่ระดับความสูง 175 ฟุต และมีความเร็วกว่า 184 นอต ก่อนที่จะลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ตามข้อมูลจาก Flightradar24

โฆษกคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ระบุว่า ทางหน่วยงานจะเป็นผู้นำการสอบสวน และกำลังส่งคณะทำงานไปยังสถานที่เกิดเหตุ

โดยทั่วไป NTSB จะใช้เวลา 12 ถึง 24 เดือนในการดำเนินการสอบสวน การค้นหาสาเหตุที่น่าสงสัย และออกคำแนะนำเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน

(ที่มา: รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น