ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพุธ(29ต.ค.) จากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ยตามคาด ความเคลื่อนไหวดังกล่าวฉุดให้ทองคำทรงตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 64.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯเผยแพร่รายงานในวันพุธ(29ต.ค.) พบคลังน้ำมันดิบ, คลังเบนซินสำรองและคลังน้ำมันกลั่น ต่างลดลงมากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสต๊อกน้ำมันดิบที่ลดลงเกือบ 7 ล้านบาร์เรล บ่งชี้อุปสงค์แข็งแกร่ง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในกรอบแคบๆในวันพุธ(29ต.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยตามคาด แต่ประธานเจอโรม พาวเวลล์ บอกว่ายังไม่รับประกันจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีกรอบในเดือนธันวาคม
ดาวโจนส์ ลดลง 74.37 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 47,632.00 เอสแอนด์พี ลดลง 0.30 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,890.59 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 130.98 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,958.47 จุด
วอลล์สตรีทแกว่งตัวในแดนบวกในช่วงต้นของการซื้อขาย จากนั้นก็ดีดตัวขึ้นไปอีก หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ตามความคาดหมาย สู่ระดับ 3.75-4.00% และบอกว่าจะกลับมาเริ่มจำกัดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลอีกรอบ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเน้นว่ากระบวนการตัดสินใจของพวกเขาเป็นไปอย่างจำกัด สืบเนื่องจากภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลกลาง
ส่วนราคาทองคำปรับขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ(29ต.ค.) นักลงทุนพินิจพิเคราะห์ความเห็นของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในเรื่องเกี่ยวกับเส้นทางนโยบายในอนาคต หลังจากปรับลดดอกเบี้ยตามคาด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 17.60 ดอลลาร์ หรือ 0.40 % ปิดที่ 4,000.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)


