(เก็บความจากเอเชียไทมส์ https://asiatimes.com/2025/10/g7-eu-mull-price-floors-over-chinas-rare-earths-curbs/)
G7, EU mull price floors over China’s rare earths curbs
by Jeff Pao
21/10/2025
ทั้งกลุ่มจี7 และสหภาพยุโรป มีการหารือใช้วิธีกำหนดราคาต่ำสุด เพื่อจูงใจพวกผู้ผลิตแรร์เอิร์ธรายอื่นๆที่ไม่ใช่จีน ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการตอบโต้การคุ้มเข้มส่งออกแร่ธาตุหายากและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องของแดนมังกร แต่ขณะเดียวกัน ทางด้านจีนก็มีการถอดผู้เจรจาการค้าสายเหยี่ยวออกจากตำแหน่ง เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า ก่อนหน้าการพบปะหารือระหว่างทรัมป์กับสีที่เกาหลีใต้
มีรายงานว่า กลุ่ม 7 ชาติ (จี7 การรวมตัวของพวกประเทศใหญ่ๆ ในโลกตะวันตก) และสหภาพยุโรป กำลังทำงานร่วมกันเพื่อพยายามลดการต้องพึ่งพาอาศัยแร่ธาตุแรร์เอิร์ธจากประเทศจีน หลังจากแดนมังกรได้ประกาศมาตรการเข้มงวดยิ่งขึ้นในการควบคุมการส่งออกทั้งแร่ธาตุสำคัญๆ แถมยังครอบคลุมไปถึงพวกเทคโนโลยีการแปรรูปที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 9 และ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา
รายงานของสื่อมวลชนหลายสำนักระบุ [1] ว่า พวกประเทศ จี7 (ประกอบด้วย สหรัฐฯ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร, อิตาลี, แคนาดา, และญี่ปุ่น) และทางอียู กำลังพิจารณาที่นำเอา วิธีการประกาศกำหนดราคารับซื้อต่ำสุด (price floors) เข้ามาใช้ เพื่อเป็นการรับประกันผลกำไรให้แก่พวกซัปพลายเออร์แรร์เอิร์ธอื่นๆ ที่ไม่ใช่จีน
ในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีคลัง ฟรองซัวส์ ฟิลีปป์ แชมเปญ (François-Philippe Champagne) ของแคนาดา ได้บอก [2] กับสื่อมวลชนว่า เหล่าชาติ จี7 สามารถเคลื่อนไหว “จากการพึ่งพาอาศัยมาสู่ความหยุ่นตัว” ในเรื่องห่วงโซ่อุปทานแรร์เอิร์ธได้ เนื่องจากพวกเขามีทั้งเครื่องมือและทรัพยากรที่จะดำเนินปฏิบัติการเพื่อให้เกิดสายท่อส่งที่เป็นทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากจีน ขึ้นมา
ในช่วงใกล้ๆ กัน กรรมาธิการด้านการค้าของอียู (EU trade commissioner) มารอส เซฟโควิช (Maros Sefcovic) ได้แถลง [3] ในสัปดาห์ที่แล้วว่า สหภาพยุโรปกำลังร่วมมือประสานงานกับพวกชาติสมาชิก จี7 ในเรื่องการตอบโต้มาตรการควบคุมแรร์เอิร์ธของจีน
ในการประชุมหารือของบรรดารัฐมนตรีด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมกลุ่ม จี7 ที่กำลังจะจัดขึ้นในเมืองโทรอนโต, แคนาดา วันที่ 30 และ 31 ตุลาคมนี้ เป็นที่คาดหมายกันว่าพวกชาติสมาชิกทั้งหลายจะเดินหน้า [4] ในเรื่องการหารือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านแรร์เอิร์ธของพวกเขา และระบบกำหนดราคาต่ำสุดสำหรับการซื้อจากพวกซัปพลายเอร์ที่ไม่ใช่จีนตามที่มีการเสนอกันไว้
ฉันทามติที่ออกมาจากการประชุมระดับผู้นำของ จี7 ณ รีสอร์ตคานานาสกีส (Kananaskis), แคนาดา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมีเนื้อหาเรียกร้องให้เพิ่มความร่วมมือประสานงานกันให้มากขึ้นอีกอย่างมโหฬาร ในเรื่องว่าด้วยห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุทรงความสำคัญยิ่งยวด จะถูกนำมาใช้เป็นรากฐานอย่างหนึ่งสำหรับการประชุมที่โทรอนโตครั้งนี้ พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าที่ประชุมโทรอนโตน่าจะสามารถกำหนดแผนแม่บทอย่างเป็นรูปธรรมฉบับแรก เกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่จะประสานร่วมมือกันเพื่อลดทอนการพึ่งพาอาศัยแรร์เอิร์ธส่งออกของจีน
ในอีกด้านหนึ่ง นายกรัฐมนตรี แอนโธนี อัลเบนีส ของออสเตรเลีย ได้พบปะหารือ [5] กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ณ กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ (20 ต.ค.) โดยที่ผู้นำทั้งสองได้ร่วมลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับแรร์เอิร์ธฉบับหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหามุ่งทำให้ออสเตรเลียกลายเป็นซัปพลายเออร์หลักรายหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดนี้ของสหรัฐฯ ข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งเซ็นกันที่ทำเนียบขาว ยังมีการย้ำยืนยันความตกลงร่วมมือกันทางความมั่นคงและการทหารระหว่าง ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, และสหรัฐฯ (ที่เรียกชื่อย่อกันว่า ออคัส AUKUS) ตลอดจนเป้าหมายที่พวกเขามีร่วมกันในการตัดลดการพึ่งพาอาศัยจีน
ต้นทุนสำหรับการกำหนดราคาต่ำสุด
แนวความคิดเรื่องกำหนดราคารับซื้อต่ำสุดนี้ มีแบบอย่างใช้กันอยู่ในโลกแห่งความจริงในสหรัฐฯ
เอ็มพี แมตทีเรียลส์ (MP Materials) ผู้ผลิตแรร์เอิร์ธในสหรัฐฯ กำลังได้รับประโยชน์จากมาตรการรับประกันราคาต่ำสุดในการรับซื้อ ที่มีรัฐบาลอเมริกันหนุนหลัง ซึ่งสัญญาจะให้ราคาขั้นต่ำสุดที่ 110 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อกิโลกรัม สำหรับสารประกอบแรร์เอิร์ธ นีโอดีเมียม-เพรซีโอดิเมียมออกไซด์ (NdPr oxide) อันเป็นราคาสูงกว่าของจีนซึ่งอยู่ที่ 88 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม จากการขายได้ในราคาพรีเมียมเช่นนี้เอง ก็ช่วยให้ทางบริษัทสามารถแบกรับต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูงกว่าของแดนมังกร รวมทั้งเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของวอชิงตันที่จะสร้างห่วงโซ่อุปทานแรร์เอิร์ธซึ่งสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเองขึ้นมาให้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม พวกนักวิจารณ์ให้ความเห็นผ่านสื่อ (คอนเมนเตเตอร์) ชาวจีน ส่วนใหญ่พากันตีปลาหน้าไซว่า ยุทธศาสตร์ประกาศราคาต่ำสุดของฝ่ายตะวันตกเช่นนี้ จะไม่ประสบความสำเร็จอะไรหรอก เนื่องจากการครองฐานะครอบงำตลาดแร่แรร์เอิร์ธของประเทศจีนนั้น มีการสนับสนุนทั้งจาก การลงทุนอย่างหยั่งรากลึก, ความประหยัดอันเกิดจากขนาด, การมีข้อกำหนดด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่ยืดหยุ่น, และสมรรถนะในการแปรรูปแร่ที่หลากหลายรอบด้าน ซึ่งพวกคู่แข่งไม่สามารถที่จะลอกเลียนแบบได้ง่ายๆ
“ยุทธศาสตร์กำหนดราคาต่ำสุดของ จี7 นั้น เป็นยุทธศาสตร์ที่บกพร่องผิดพลาด และอาจก่อให้เกิดผลสะท้อนกลับด้วยซ้ำ” เป็นความเห็น [6] ของคอลัมนิสต์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลเหอเป่ยผู้หนึ่งซึ่งใช้นามปากกาว่า “นักเปียโนใต้แสงจันทร์” (Pianist under the Moonlight) “ถ้าราคาต่ำสุดนี้กำหนดเอาไว้ต่ำเกินไป ก็จะไม่มีใครลงทุน ถ้ากำหนดเอาไว้สูงเกินไป พวกอุตสาหกรรมปลายน้ำก็จะไม่สามารถสู้ราคาไหว”
“ราคาเทียมที่กำหนดกันขึ้น จะเพิ่มต้นทุนของพวกผลิตภัณฑ์ปลายน้ำอย่าง รถยนต์ไฟฟ้า, กังหันลม, และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค และพวกผู้บริโภคนั่นแหละที่ลงท้ายแล้วจะเป็นคนควักกระเป๋าจ่ายราคาที่ว่านี้ จี7 อ้างว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ แต่ขณะเดียวกันกลับขับดันต้นทุนของวัสดุสำคัญที่สุดให้สูงขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันเองเห็นๆ” เขาบอก
นักเขียนผู้นี้กล่าวต่อไปว่า คาดหมายได้ว่าพวกผู้ผลิตรถยนต์เยอรมนีจะพากันต่อต้านนโยบายกำหนดราคาต่ำสุดใดๆ ก็ตามที่มีลักษณะเชิงรุกมากๆ เวลาเดียวกันนั้นการล็อบบี้ของพวกเขาเพื่อขอยกเว้นหรือขอการอุดหนุนชดเชย ในที่สุดแล้วก็จะทำให้สิ่งที่เรียกว่า พันธมิตรแรร์เอิร์ธ จี7 นี้ เกิดการแตกแยกกัน
ทางด้าน เสิ่น หลุนซิน (Shen Lunxin) คอลัมนิสต์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลซานซี ซึ่งมีความชำนาญพิเศษด้านภาครถยนต์ บอก [7] ว่า “พวกที่กำลังส่งเสียงดังๆ ให้กำหนดราคาต่ำสุด เวลานี้กำลังเริ่มถอยหลังกลับเสียแล้ว เมื่อพวกเขาถูกร้องขอให้ต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้นดังกล่าวนี้” เขาระบุว่า “การทำเหมืองแรร์เอิร์ธ จำเป็นต้องมีทั้งแรงงาน, การปกป้องสิ่งแวดล้อม, และเทคโนโลยี สหรัฐฯไม่สามารถเปิดเหมืองของพวกเขาเองขึ้นมาใหม่อย่างเต็มที่อีกครั้งหนึ่งเป็นเวลานับสิบๆ ปีแล้ว รวมทั้งต้องปิดเหมืองที่มีอยู่เมื่อใดก็ตามที่ราคาน้ำมันพุ่งพรวดขึ้น ทางด้าน ออสเตรเลีย, แคนาดา, และแอฟริกาใต้ ก็มีประสบการณ์อย่างเดียวกัน รวมทั้งยังต้องพึ่งพาอาศัยโนว-ฮาวทางเทคนิคของจีนด้วย”
เขากล่าวต่อไปว่า พวกชาติ จี7 ควรทิ้งแผนการกำหนดราคาต่ำสุดที่จะต้องใช้จ่ายสูงๆ ไปเสียดีกว่า แล้วหันมาทำงานกับจีนเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีเสถียรภาพและสมดุลขึ้นมา
เมื่อปี 2010 จีนเคยเข้มงวดการส่งออกแรร์เอิร์ธไปยังญี่ปุ่น ทำให้สหรัฐฯ, อียู, และญี่ปุ่นยื่นคำฟ้องร้องคัดค้านแดนมังกรต่อองค์การการค้าโลก (World Trade Organization หรือ WTO) ในเวลาเดียวกัน บริษัทโมลีคอร์ป (Molycorp) ที่ตั้งฐานอยู่ในสหรัฐฯ ก็เริ่มเปิดเหมืองเมาน์เทนแพสส์ (Mountain Pass) ซึ่งปิดตัวไปนานแล้วขึ้นมาใหม่ ขณะที่บริษัทไลนัส (Lynas) แห่งออสเตรเลีย ก็ได้รับหลักประกันด้านการลงทุนจากญี่ปุ่นเพื่อขยายการผลิต
อย่างไรก็ดี หลังจากจีนแพ้คดีการฟ้องร้องนี้ที่ WTO ในปี 2014 และปล่อยซัปพลายแรร์เอิร์ธของตนออกมาท่วมตลาด ราคาก็หล่นฮวบลงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และทำให้พวกผู้ผลิตอื่นๆ ทั่วโลกพากันขาดทุนหนักหน่วง โมลีคอร์ปล้มละลายไปในปี 2015 ส่วนกิจการลงทุนทั้งของญี่ปุ่นและของออสเตรเลียก็ตกอยู่ในอาการเคว้งคว้าง
คอลัมนิสต์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลซานตงผู้หนึ่ง ตั้งข้อสังเกต [8] ว่า จีน “โชคดี” ที่แพ้ในคดีฟ้องร้องเมื่อปี 2014 ดังนั้นจึงยังสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดมาได้, รวมทั้งปรับปรุงยกระดับโนว-ฮาวด้านการเพิ่มความบริสุทธิ์ให้แก่ผลิตภัณฑ์แร่ของตน, และรักษาอำนาจในการปรับเปลี่ยนรูปโฉมพวกมาตรฐานทางอุตสาหกรรมระดับโลกในวงการนี้เอาไว้ได้อย่างมั่นคง
จีนปลดจนท.เจรจาสไตล์ “นักรบหมาป่า”
จีนมีความพยายามที่จะหาทางหยุดยั้งไม่ให้สถานการณ์บานปลายขยายตัว ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาข่มขู่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมว่าจะจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นในอัตรา 100% เอากับสินค้าเข้าจากจีน รวมทั้งอาจยกเลิกการประชุมหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนซึ่งกำหนดเอาไว้คร่าวๆ ในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
ปรากฏว่า เมื่อถึงวันจันทร์ (20 ต.ค.) จีนได้เผยแพร่ข่าวการถอด [9] หลี่ เฉิงกัง (Li Chenggang) ผู้เจรจาการค้าประสบการณ์สูงของตน ที่ได้รับฉายานามว่าเป็น “นักรบหมาป่า” (wolf warrior) ในทางการทูตผู้หนึ่ง ออกจากตำแหน่งการเป็นผู้แทนถาวรและเอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (แม้มีรายงานหลายกระแสว่า เขายังคงรักษาตำแหน่งอื่นๆ เอาไว้ได้ ซึ่งได้แก่ ผู้แทนการค้าระหว่างประเทศของจีน และรองรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน -ผู้แปล) ทั้งนี้ หลี่ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำของผู้เจรจาการค้าระหว่างประเทศของจีนในเดือนเมษายน และได้แสดงบทบาทสำคัญการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนในยุคทรัมป์ 2.0 ทั้ง 4 รอบ
การหลุดออกจากตำแหน่งของ หลี่ ในคราวนี้ เกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีคลัง สกอตต์ เบสเซนต์ ซึ่งมีฐานะเสมือนเป็นหัวหน้าคณะผู้เจรจาการค้าของฝ่ายสหรัฐฯในเวลาประชุมหารือกับฝ่ายจีน ได้บอก [10] กับสื่อมวลชนระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงวอชิงตันในวันที่ 15 ตุลาคมว่า หลี่ ได้ไปปรากฏตัวแบบไม่ได้รับเชิญในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม และใช้ “ภาษาที่มุ่งยั่วยุอย่างรุนแรงมาก” ด้วยการเตือนว่า “จีนจะทำให้เกิดความปั่นป่วนอลหม่านไปทั่วโลก ถ้าหาก (สหรัฐฯ) ยังคงเดินหน้าเรื่องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษการใช้ท่าเรือจากเรือสินค้าจีน”
เบสเซนต์ กล่าวถึงคำพูดเหล่านี้ของ หลี่ ว่า ทั้ง “ไม่ให้ความเคารพ” และ วิปลาส” เขาบอกด้วยว่า มาตรการจำกัดการส่งออกแรร์เอิร์ธของจีน เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการบานปลายขยายตัวในความตึงเครียดทางเศรษฐกิจระดับโลกอย่างแน่นอนชัดเจน รวมทั้งกล่าวถึงการประจันหน้ากันคราวนี้ว่าเป็น “ช่วงขณะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการค้าทั่วโลก
“นี่คือการต่อสู้ระหว่างจีนกับทั่วโลก” เขากล่าวต่อ “เราและพวกพันธมิตรของเรา จะไม่ยอมถูกบงการบังคับบัญชาหรือถูกควบคุม เราจะไม่ปล่อยให้กลุ่มข้ารัฐการกลุ่มหนึ่งในปักกิ่ง พยายามเข้ามาบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก”
ทางด้าน เหอ หย่งเฉียน (He Yongqian) โฆษกของกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าว [11] ในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ตามปกติในวันที่ 16 ตุลาคมว่า “สหรัฐฯได้ตีความผิดพลาดอย่างร้ายแรง และประเมินมาตรการต่างๆ ของจีนแบบเกินเลย ด้วยความจงใจที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนก” เธอกล่าวว่า “มาตรการจำกัดการส่งออกแรร์เอิร์ธฉบับใหม่ๆ ของจีน เป็นก้าวเดินที่ถูกต้องชอบธรรมภายใต้กฏหมายแห่งชาติฉบับต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้แรร์เอิร์ธจากจีนอย่างผิดกฎหมายในอาวุธอานุภาพทำล้ายร้ายแรง และเพื่อปกป้องความมั่นคงทั้งของจีนและทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้น”
เธอบอกว่า ก่อนที่จะมีการประกาศมาตรการเหล่านี้ออกมา จีนได้แจ้งให้ทั้งสหรัฐฯ, อียู, และญี่ปุ่น รับทราบแล้ว และจีนก็ยังคงกำลังรักษาการติดต่อสื่อสารอย่างฉันมิตร เพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น
ต่อมาในวันที่ 17 ตุลาคม เบสเซนต์แถลงว่า เขาคาดหมายว่า ทรัมป์ และ สี จะพบปะหารือกันในเกาหลีใต้ช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้
เชิงอรรถ
[1] https://www.reuters.com/world/china/g7-weighs-price-floors-rare-earths-counter-chinas-dominance-sources-say-2025-09-24/
[2] https://www.canadianaffairs.news/2025/10/17/champagne-hopeful-g7-can-lower-rare-earth-reliance-on-china/
[3] https://www.ctvnews.ca/world/article/eu-working-with-g7-partners-on-response-to-china-rare-earth-controls/
[4] https://g7.canada.ca/en/news-and-media/news/canada-host-g7-energy-environment-ministers-meeting-toronto-ontario/
[5] https://eu.usatoday.com/videos/news/politics/2025/10/20/trump-signs-rare-earths-agreement-with-australia/86804377007/
[6] https://baijiahao.baidu.com/s?id=1845844049952784625&wfr=spider&for=pc
[7] https://baijiahao.baidu.com/s?id=1844288159844977332&wfr=spider&for=pc
[8] https://baijiahao.baidu.com/s?id=1846387495741191296&wfr=spider&for=pc
[9]http://www.news.cn/politics/leaders/20251020/46fe04c4cfe648a0b981cf1a6553db07/c.html
[10] https://nypost.com/2025/10/15/us-news/bessent-rips-unhinged-chinese-trade-negotiator-and-announces-price-floors-in-latest-pushback-on-beijing/
[11] https://cpc.people.com.cn/BIG5/n1/2025/1017/c64387-40583892.html


