xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ฟิลิปปินส์ยังคงควบคุมตัวผู้ต้องหากว่า200-เกือบครึ่งเป็นเยาวชน หลังประท้วงสันติต้านทุจริตในมะนิลาพลิกเป็นความรุนแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เยาวชนในฟิลิปปินส์หลายกลุ่มจัดการประท้วงขึ้นบริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจเขตมะนิลา เมื่อวันจันทร์ (23 ก.ย.) เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกตำรวจกวาดจับไปสืบเนื่องจากการชุมนุมใหญ่ต่อต้านคอร์รัปชั่นในเมืองหลวงฟิลิปปินส์ในวันอาทิตย์ (22)
ตำรวจฟิลิปปินส์ยังคงควบคุมผู้ต้องหาเอาไว้กว่า 200 คนในวันจันทร์ (22 ก.ย.) โดยในจำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่งเป็นเยาวชน ภายหลังเกิดเหตุปะทะรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ (21) ระหว่างการชุมนุมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ส่วนใหญ่ดำเนินไปอย่างสันติในกรุงมะนิลาและมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน

โฆษกหญิงสำนักงานตำรวจฟิลิปปินส์แถลงในวันจันทร์ (22) ว่า ในบรรดาผู้ถูกควบคุมตัว 216 คน มีอย่างน้อย 88 คนเป็นเยาวชน

อิสโก มอเรนา นายกเทศมนตรีมะนิลาซิตี้ แถลงว่า ผู้ถูกจับกุมที่อายุน้อยที่สุดคือ 12 ปี

ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขแถลงในวันเดียวกันว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 50 คนที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมะนิลา ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจระบุว่า ตำรวจ 93 นายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะในวันอาทิตย์

ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ชาวฟิลิปปินส์จำนวนหลายหมื่นคนไปชุมนุมกันที่อุทยานประวัติศาสตร์และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในกรุงมะนิลา เพื่อระบายความเดือดดาลที่มีต่อคดีทุจริตอื้อฉาวเกี่ยวกับโครงการป้องกันน้ำท่วมซึ่งมีอยู่หลายโครงการ และถูกพาดพิงเกี่ยวข้องกับสมาชิกรัฐสภา เจ้าหน้าที่รัฐบาล รวมทั้งบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่า รับสินบนก้อนใหญ่จากโครงการเหล่านี้

การชุมนุมส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสันติ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายที่กินเวลาราวหนึ่งชั่วโมงขึ้นมา โดยกลุ่มคน 100 คนที่ส่วนใหญ่ใช้ไม้กระบองเป็นอาวุธ ได้เข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย โดยตำรวจก็ใช้แก๊สน้ำตาตอบโต้ ทั้งนี้ตำรวจระบุว่าพวกผู้ก่อความรุนแรงได้ก่อเหตุเผารถตำรวจ พ่นสีบนกำแพง รื้อถอนป้าย ทุบกระจก และบุกเข้าไปในล็อบบี้ที่พักราคาประหยัดแห่งหนึ่งบนถนนที่เป็นที่ตั้งสถาบันการศึกษา ธนาคาร และร้านอาหาร ก่อนที่คนเหล่านั้นจะสลายตัวในคืนวันอาทิตย์

หลังเหตุการณ์รุนแรงสิ้นสุดลงหลายชั่วโมง ตำรวจยังคงไม่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุ และไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คนเหล่านั้นเข้าร่วมการชุมนุมเดินขบวนอย่างสันติที่มุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีหรือไม่ รวมทั้งไม่มีใครรู้ว่า ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ อยู่ในทำเนียบมาลากันยังขณะที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายหรือไม่

ตำรวจออกคำแถลงภายหลังจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่เตือนว่า จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงและการปล้นขึ้นมาอีก

เกี่ยวกับกรณีทุจริตอื้อฉาวโครงการควบคุมน้ำท่วม ตัวมาร์กอสเองก็ได้กล่าวถึงเมื่อเดือนกรกฎาคมระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี และต่อมาเขาสั่งจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนความผิดปกติของโครงการควบคุมน้ำท่วมเหล่านี้จำนวนมาก จากทั้งหมด 9,855 โครงการ ซึ่งรวมแล้วคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 9,500 ล้านดอลลาร์ ที่มีการดำเนินการนับจากที่ตัวเขาเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีเมื่อกลางปี 2022 ทั้งนี้มาร์กอสได้ออกปากวิจารณ์ว่า เป็นการทุจริตขนาดใหญ่อย่างน่ากลัว และจากนั้นเขาได้ยอมรับการลาออกของรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการ

นอกจากนั้นแล้ว โครงการอื้อฉาวนี้ยังทำให้ทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ลาออกจากตำแหน่ง ระหว่างการสอบสวนอีกด้วย

ด้านกระทรวงการคลังประเมินว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ประสบความสูญเสียจากการคอร์รัปชั่นในโครงการควบคุมน้ำท่วมเป็นมูลค่าถึง 2,000 ล้านดอลลาร์นับจากปี 2023-2025 ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกรีนพีซเชื่อว่า ตัวเลขจริงอาจเกือบถึง 18,000 ล้านดอลลาร์

ความไม่พอใจของประชาชนปะทุขึ้นเมื่อสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างหลายแห่งที่คว้าสัญญาโครงการควบคุมน้ำท่วมมูลค่ามหาศาล อวดรถยนต์หรูสัญชาติยุโรปและอเมริกันของตนระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อ ในจำนวนนี้รวมถึงรถหรูสัญชาติอังกฤษสนนราคาคันละ 737,000 ดอลลาร์ที่ทั้งคู่บอกว่า ซื้อเพราะผู้ขายแถมร่มให้ 1 คัน

(ที่มา: เอเอฟพี/เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น