xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ไว้ใจสหรัฐฯ!เกาหลีเหนือพร้อมคุยกับอเมริกา แต่กร้าวไม่มีวันสละอาวุธนิวเคลียร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่าไม่มีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงพูดคุยทางการทูตกับสหรัฐฯ ถ้าวอชิงตันหยุดยืนกรานว่าประเทศของเขาต้องสละอาวุธนิวเคลียร์ แต่ยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมละทิ้งคลังแสงนิวเคลียร์แลกกับการปลดมาตรการคว่ำบาตร ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐในวันจันทร์(22ก.ย.)

ระหว่างกล่าวกับสมัชชาประชาชนสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์(21ก.ย.) คิม กล่าวว่า "โดยส่วนตัวแล้ว ผมยังมีความทรงจำอันน่าประทับใจกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" เคซีเอ็นเอรายงาน ทั้งนี้ทั้ง 2 ผู้นำเคยพบปะกัน 3 ครั้ง ระหว่างที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยแรก

ความคิดเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่หัวเสรีนิยมในเกาหลีใต้ เร่งเร้าทรัมป์ให้รับหน้าที่เป็นแกนนำในการรื้อฟื้นเจรจากับคิม ราว 6 ปี หลังการเจรจาสันติภาพทั้งหมดทั้งมวลกับเปียงยางพังครืน หลังกระทบกระทั่งกันเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรและการรื้อถอนนิวเคลียร์

"ถ้าสหรัฐฯเลิกฟุ้งซ่านเกี่ยวกับการปลดนิวเคลียร์เราและยอมรับความเป็นจริง และต้องการอยู่ร่วมกันอย่างสันติอย่างแท้จริง ไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่นั่งลงเจรจากับสหรัฐฯ" คิมกล่าว อย่างไรก็ตามเขาบอกต่อว่า "การสร้างอาวุธนิวเคลียร์ เป็นประเด็นของการอยู่รอดของประเทศ เพื่อปกป้องความมั่นคงจากภัยคุกคามร้ายแรงจากสหัฐฯและเกาหลีใต้" อ้างถึงการซ้อมร่วมเป็นประจำระหว่างวอชิงตันกับโซล ที่เขาเชื่อว่ากำลังวิวัฒนาการสู้การซ้อมรบสำหรับทำสงครามนิวเคลียร์

"การหยั่งเชิงทาบทามจากวอชิงตันและโซลเพื่อการเจรจาเมื่อเร็วๆนี้ ดูเหมือนจะไม่จริงใจ เพราะรากฐานของพวกเขาที่ยังคงไม่เปลี่ยนไป ก็คือความตั้งใจก่อความอ่อนแอแก่เกาหลีเหนือและทำลายทำลายระบอบการปกครอง" คิมกล่าว พร้อมระบุข้อเสนออย่างเป็นขั้นเป็นตอนโดยโซล สำหรับยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี

"ทั่วโลกรู้เป็นอย่างดีในสิ่งที่สหรัฐฯจะทำ หลังจากประเทศหนึ่งๆยอมสละอาวุธนิวเคลียร์และปลดอาวุธ" คิมกล่าว "เราจะไม่มีวันยอมละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ของเรา เราจะไม่มีวัน ไม่มีทางจนชั่วนิรันดร์ ที่เราจะเจรจาใดกับศัตรูในการแลกเปลี่ยนมันกับการยกเลิกการคว่ำบาตร มาตรการคว่ำบาตรคือประสบการณ์ที่เรากำลังเรียนรู้ และมันทำให้ประเทศของเรามีความเข้มแข็งมากขึ้นและยืดหยุ่นกว่าเดิม"

เกาหลีเหนือถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจไปแล้วหลายรอบ เช่นเดียวกับปิดล้อมทงอาวุธที่สกัดเงินทุนสำหรับนำไปพัฒนาด้านการทหาร แต่พวกเขายังคงเดินหน้าสายต่อโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทรงพลัง

อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ ว่ามาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้น ในท้ายที่สุดแล้วล้มเหลวในป้องปรามเกาหลีเหนือ ซึ่งทุกวันนี้เพิ่มจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ในคลังแสงราว 15 ถึง 20 หัวรบ ในทุกๆปี "ข้อเท็จจริงคือแนวทางคว่ำบาตรและกดดันที่ผ่านๆมา ไม่ได้แก้ปัญหา และมันรังแต่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง"

ประธานาธิบดีอี หยั่งเชิงแนวทางสันตินับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน โดยบอกว่าการพูดคุยกับเปียงยางเป็นสิ่งจำเป็น และเสนอก้าวย่างต่างๆในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและท้ายที่สุดแล้ว คือการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

เขายอมรับกับรอยเตอร์ว่ามีอุปสรรคอันใหญ่โตสำหรับการรื้อฟื้นการเจรจากับเกาหลีเหนือ แต่เขายังคงเชื่อว่าแนวทางรื้อถอนโครงการนิวเคลียร์เปียงยางแบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นทางเลือกที่เป็นจริง "มันจำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับดึงเกาหลีเหนือสู่โต๊ะเจรจา และทรัมป์จะมีบทบาทสำคัญในความพยายามดังกล่าว" อีระบุ

(ที่มา:รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น