รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันเสาร์(20ก.ย.) ยกเลิกการสำรวจรายปีในด้านความไม่มั่นคงทางอาหารในอเมริกา อ้างว่ามันเริ่มกลายเป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองเลยเถิดจนเกินไป
"กระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐฯ(USDA) จะไม่เดินหน้ารายงานความมั่นคงทางอาหารในครัวเรือนในอนาคต" ถ้อยแถลงที่ทางกระทรวงเกษตรส่งถึงสำนักข่าวเอเอฟพี พร้อมระบุด้วยรายงานที่เริ่มถูกทำให้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองเลยเถิดเกินไป ทางกระทรวงฯจึงไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการอีก
ความเคลื่อนไหวที่ยกเลิกการสำรวจที่มีมานานกว่า 3 ทศวรรษ มีขึ้นไม่นานหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกรส ผ่านแผนปฏิรูปครั้งใหญ่ในปีนี้ ในโครงการความช่วยเหลือด้านอาหารของสหรัฐฯที่เรียกว่า SNAP ซึ่งพวกนักวิเคราะห์อิสระทั้งหลายเชื่อว่ามันจะตัดขาดชาวอเมริกาหลายล้านคนจากการเข้าถึงโครงการนี้
รายงานเมื่อปี 2023 พบว่ามีครัวเรือนในสหรัฐฯ 13.5% ที่เผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหาร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014
ถ้อยแถลงของ USDA วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการรวบรวมวิจัย โดบบอกว่า "คำถามที่ถูกใช้เก็บข้อมูลนั้น เป็นไปตามความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆและไม่นำเสนอภาพที่ถูกต้องของความมั่นคงทางอาหารที่แท้จริง"
"ข้อมูลเต็มไปด้วยความไม่ถูกต้องต่างๆนานา ที่เอนเอียงไปในทางปั้นแต่งเรื่องเล่าที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆภายในประเทศของเรา ในขณะที่ปัจจุบันเรามีอัตราความขัดสนอยู่ในระดับต่ำ ค่าแรงสูงขึ้นและมีความเติบโตด้านการจ้างงาน ภายใต้รัฐบาลทรัมป์" ถ้อยแถลงระบุ
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าสิ่งที่ทาง USDA ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นพุ่งเป้าไปที่การรวบรวมข้อมูลความหิวโหยของปีนี้หรือไม่ แต่ในความเป็นจริงคือ ข้อมูลที่รวบรวมในปีนี้จะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะในปีหน้า
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อไม่นานที่ผ่านมา พบว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว และตลาดงานกำลังตึงตัวมากขึ้นเรื่อยๆในปีนี้
ทรัมป์ ปฏิเสธว่าข้อมูลนี้ไม่ถูกต้องและเพิ่งไล่ออกหัวหน้าสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงาน หลังเผยแพร่ตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าความคาดหมาย โดยกล่าวหาว่าจงใจปลอมตัวเลข ต่อมาเขาเสนอชื่อ อี.จี.แอนโทนี นักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายขวา ที่แสดงความคิดเห็นสนับสนุนประธานาธิบดีจากรีพับลิกันมาอย่างต่อเนื่อง ให้ก้าวมาดำรงตำแหน่งแทน
(ที่มา:เอเอฟพี)