ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี(11ก.ย.) จากความกังวลทางอุปทาน ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำปรับลดในกรอบแคบๆ ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทบวงพลังงานสากลเผยแพร่รายงานประจำเดือน ระบุว่าอุปทานน้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดหมายไว้ในปีนี้ สืบเนื่องจากแผนเพิ่มกำลังผลิตของโอเปกพลัส ที่ประกอบด้วยสมาชิกโอเปกและบรรดาพันธมิตรอย่างรัสเซีย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์(7ก.ย.) โอเปกพลัสเห็นพ้องเพิ่มกำลังผลิตนับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามในรายงานอีกฉบับ ทางโอเปกคงประมาณการอุปทานนอกโอเปกและอุปสงค์สำหรับปีนี้ไว้ตามเดิม อ้างถึงอุปสงค์ทรงตัว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี(11ก.ค.) ตามหลังการดีดตัวของเทสลาและไมครอน เทคโนโลยี ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อและคนว่างงานของอเมริกา โหมกระพือความคาดหมายว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนนี้
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 617.08 จุด (1.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 46,108.00 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 55.43 จุด (0.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,587.47 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 157.01 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 22,043.07 จุด
ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าที่คาดหมายในเดือนสิงหาคม และเงินเฟ้อเมื่อเทียบเป็นรายปีเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน
ในรายงานอีกฉบับ ทางกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่าตัวเลขผู้เข้ารับสวัสดิการคนว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน อยู่ที่ 263,000 ราย แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี
เวลานี้นักวิเคราะห์คาดหมายว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์หน้า และอีก 0.25% ในช่วงปลายปี
ความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และฉุดให้ราคาทองคำปิดลบในกรอบแคบๆในวันพฤหัสบดี(11ก.ย.) แต่ยังคงแกว่งตัวใกล้ๆระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 8.40 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 3,673.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)