BYD ค่ายยานยนต์อันดับ 1 ของจีน เตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในยุโรปด้วยสายการผลิตท้องถิ่น 100 เปอร์เซ็นต์ภายในระยะเวลา 3 ปี ข้างหน้า ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษีนำเข้าของสหภาพยุโรป
“เรากำลังฝึกปรือตัวเองให้เป็นยุโรปมากขึ้นในแง่ของการผลิต” สเตลลา หลี่ รองประธานบริหารซึ่งถือเป็นผู้บริหารอันดับ 2 ของ BYD ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ในงานแสดงรถยนต์ IAA Mobility ที่นครมิวนิกเมื่อวันจันทร์ (8 ก.ย.)
BYD อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานในฮังการีซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ในปีนี้ และมีกำหนดจะเริ่มเปิดสายการผลิตในตุรกีภายในปี 2026
สหภาพยุโรปได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสูงลิ่วสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากเชื่อว่าผู้ผลิตรถยนต์ของจีนนั้นได้รับประโยชน์จากมาตรการอุดหนุนของรัฐบาล
สำหรับคำถามที่ว่า BYD จะต้องใช้เวลานานสักแค่ไหนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่จำเป็นต่อการตอบสนองความต้องการของยุโรป หลี่ กล่าวว่า "ขอเวลาเราสัก 2-3 ปี"
เดิมที BYD จำหน่ายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในยุโรป และเมื่อปลายปีที่แล้ว BYD ได้ประกาศว่าจะเริ่มต้นจำหน่ายรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินด้วย โดยรถยนต์ประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงจากผู้บริโภค ตัวอย่างเช่นในสหราชอาณาจักร รถยนต์ที่ขายดีที่สุดของ BYD ก็คือรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV)
หลี่ กล่าวว่า ภายใน 6 เดือนข้างหน้า BYD จะเปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อีก 3-4 รุ่น และคาดว่ารถยนต์เหล่านี้จะสามารถทำยอดขายแซงหน้ารถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในยุโรปเร็วๆ นี้
“ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า รถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินของเราจะมียอดขายสูงสุด” ในยุโรป เธอกล่าว
หลี่ ระบุด้วยว่า BYD จะเปิดตัวแบรนด์รถยนต์หรู Yangwang ในยุโรปในปี 2027
ยอดขายทั่วโลกของ BYD พุ่งสูงถึง 4.2 ล้านคันในปี 2024 หรือเพิ่มขึ้นสิบเท่าจากเมื่อปี 2019 ทว่าบริษัทกลับต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลงและการผลิตที่ลดลงภายในประเทศจีนมานานหลายเดือนแล้ว
หลี่ ชี้ว่า ปรากฏการณ์เช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ หลังจากที่บริษัทเติบโตมาอย่างยาวนาน
“BYD ยังคงเป็นอันดับ 1 ในประเทศจีน เราพอใจกับผลลัพธ์” เธอกล่าว
“บางทีในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดของเราอาจสูงเกินไปสำหรับการเป็นอันดับหนึ่ง ตอนนี้เราจึงกลับลงมาสู่ระดับปกติ”
ยอดขายของ BYD ยังคงเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักในปีนี้ และ หลี่ กล่าวว่าการเติบโตของ BYD ในปี 2025 จะถูกขับเคลื่อนด้วยยอดขายนอกประเทศจีน
ภายใต้นโยบายใหม่ของรัฐบาลจีน หวัง เฉวียนฝู ประธาน BYD วัย 59 ปี อาจจะต้องเกษียณอายุในช่วงต้นปี 2027
ที่มา: รอยเตอร์