รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ MGRออนไลน์ – กระทรวงต่างประเทศวันศุกร์(25 ก.ค)ยืนยันไม่ต้องการให้ชาติที่ 3 เข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาที่มีทั้งสหรัฐฯ จีน และมาเลเซียเสนอตัวขอเข้ามามีบทบาทแต่เปิดทางสามารถกระทำผ่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียน หลัง 2 ชาติเปิดฉากสู้รบวันที่ 2 เริ่มมาตั้งแต่ตอนตี 4 วันนี้ยอดดับรวม 2 ฝ่ายอยู่ที่ 16 รายแต่ฝ่ายกัมพูชาปิดปากเงียบตัวเลขสูญเสีย
รอยเตอร์รายงานวันนี้(25 ก.ค)ว่า การสู้รบระหว่าง 2 ประเทศดำเนินต่อเป็นวันที่ 2 อ้างอิงจากเอเอฟพีพบว่า การสู้รบวันศุกร์(25) กลับมาใน 3 พื้นที่เริ่มตั้งแต่เวลา 04.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันศุกร์(25) อ้างอิงจากแถลงการณ์กองทัพไทย โดยกองกำลังกัมพูชาใช้อาวุธหนักยิง และปืนใหญ่สนาม และระบบจรวด BM-21 ส่งผลทำให้ฝ่ายไทยใช้อาวุธสนับสนุนการยิงที่เหมาะสมตอบโต้กลับไป
มีไม่ต่ำกว่า 138,000 คนถูกอพยพจากบริเวณพื้นที่พรมแดนไทยไปอยู่ในที่ปลอดภัย เอเอฟพีรายงานพร้อมชี้ไปที่ตัวเลขการสูญเสียจากฝ่ายไทยโดยอ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุขอยู่ที่ 15 รายประกอบไปด้วยพลเรือน 14 คนและทหารอีก 1 นาย และยังมีผู้บาดเจ็บ 46 รายรวมทหารไทย 15 นาย
เอเอฟพีรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าตัวเลขการสูญเสียจากฝั่งกัมพูชานั้นไม่เป็นที่เปิดเผย แต่นักข่าวเอเอฟพีเห็นทหารกัมพูชาบาดเจ็บ 4 นายและพลเรือนกัมพูชาอีก 3 คนกำลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน Oddar Meanchey
ทหารกัมพูชาที่บาดเจ็บเหล่านั้นให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาบาดเจ็บระหว่างการสู้รบวานนี้(24) ส่วนประชาชนกัมพูชากล่าวว่าได้รับบาดเจ็บจากเศษกระสุน
รอยเตอร์รายงานว่า การปะทะย่างเข้าสู่วันที่ 2 ท่ามกลางเสียงเตือนจากฝั่งไทยว่า ความขัดแย้งนี้สามารถพัฒนากลายเป็นสงครามได้ กระทรวงต่างประเทศของไทยได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับรอยเตอร์วันศุกร์(25)ว่า ประเทศไทยขอปฎิเสธจากระดับนานาชาติที่เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง
ทั้งสหรัฐฯ จีน และมาเลเซียที่มีสถานะพิเศษเป็นประธานอาเซียนได้เสนอตัวเพื่อเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา แต่ทว่าฝ่ายไทยกลับต้องการแสวงหาทางออกผ่านการเจรจาระดับทวิภาคีเท่านั้น นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผย
เขากล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าเราต้องการตัวกลางใดๆจากประเทศที่ 3”
พร้อมอธิบายว่า “พวกเรายังคงจุดยืนที่ว่ากลไกระดับทวิภาคีถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด นี่เป็นการเผชิญหน้าระหว่าง 2 ประเทศ” โฆษกกระทรวงต่างประเทศของไทยเสริมว่า ฝ่ายกัมพูชาต้องหยุดความรุนแรงตลอดแนวพรมแดนก่อน
เขากล่าวว่า “ประตูพวกเรายังคงเปิดกว้าง”
แต่ทว่าหนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทม์สของสิงคโปร์ได้รายงานว่า ประเทศไทยเปิดให้ “มาเลเซีย” เข้ามาเป็นกาวใจในปัญหาพรมแดนพิพาท
โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศคนเดิมได้ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีวันศุกร์(25) ว่า ไทยได้เปิดต่อมาเลเซียในการเป็นตัวกลางในความพยายามเพื่อหาทางออกการตกลงต่อความขัดแย้งที่มีการปะทะต้องเสียเลือดเนื้อกับกัมพูชา
“พวกเราพร้อมหากว่า “กัมพูชาจะยินยอมแก้ไขในประเด็นนี้ผ่านช่องทางการทูตระดับทวิภาคีหรือแม้กระทั่งผ่าน “มาเลเซีย” พวกเราพร้อมที่จะทำเช่นนั้น แต่มาจนถึงเวลานี้พวกเรายังไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ”
อย่างไรก็ตามฝ่ายกัมพูชารีบฉวยโอกาสตีปี๊บโจมตีไทยทันที โดยหนังสือพิมพ์ขแมร์ไทม์สรายงานวันศุกร์(25) อ้างว่า ไทยปฎิเสธทั้ง สหรัฐฯ จีน และมาเลเซีย ในการที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งกับฝ่ายตน ที่ทำให้ดูเหมือนว่าฝ่ายไทยนั้นไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ โดยเฉพาะคำแถลงวันนี้(25)ที่มาจากรักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ภูมิธรรม เวชยชัย ออกมาชี้ว่า ความขัดแย้งบริเวณพรมแดนไม่กี่จุดอาจพัฒนาไปสู่สงครามเต็มรูปแบบ สะท้อนวาทะที่ออกมาจากปากอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน เซน ตามการรายงานของขแมร์ไทม์ส วันศุกร์(25) ได้ออกมาตอบโต้การโพสต์ของอดีตนายกฯไทย ทักษิณ ชินวัตร โดยฮุน เซนกล่าวว่า “ทักษิณเป็นพวกชอบก่อสงคราม”