แม้กังวลสู้รบลุกลาม!แต่ผู้เชี่ยวชาญจีนมองไทยได้เปรียบกัมพูชา เพราะมีอาวุธล้ำสมัยกว่า

ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาในวันพฤหัสบดี(24ก.ค.) ลุกลามเข้าสู่การใช้อาวุธหนัก อาทิเครื่องบินขับไล่และปืนใหญ่จรวด ตามหลังเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดตามแนวพื้นที่พิพาท และผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีนรายหนึ่งบอกว่าเหตุปะทะกำลังทวีความหนักหน่วงขึ้น และเตือนถึงสถานการณ์บานปลายเพิ่มเติมระหว่าง 2 ชาติที่เป็นมิตรกับจีน แต่ถ้าให้มองเขาเชื่อว่าไทยมีความได้เปรียบในศึกสู้รบครั้งนี้ ตามรายงานของโกลบอลไทม์ส สื่อมวลชนแห่งรัฐจีน

โกบอลไทม์ส รายงานว่าเครื่องบินขับไล่ F-16 ของไทย ทิ้งบอมบ์ใส่เป้าหมายต่างๆในกัมพูชาในวันพฤหัสบดี(24ก.ค.) กองทัพไทยอ้างว่า 1 ในบรรดาเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 6 ลำ ที่่ส่งเข้าประจำการตามแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาท ได้ยิงเข้าใส่กัมพูชาและทำลายเป้าหมายทางทหารเป้าหมายหนึ่ง แต่ทางกระทรวงกลาโหมกัมพูชา รุดออกมาปฏิเสธ อ้างว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลูกลงถนน

อ้างอิงรายงานข่าวของรอยเตอร์ ทางโกบอลไทม์ส ระบุว่าปฏิบัติการจู่โจมทางอากาศมีขึ้นตามหลังเหตุปะทะในตอนเช้าวันพฤหัสบดี(24ก.ค.) ใกล้ชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ห่างจากกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย ราวๆ 360 กิโลเมตร

รายงานข่าวของโกลบอลไทม์สระบุว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นคนเริ่มก่อน โดยทางรอยเตอร์ระบุกองทัพไทยอ้างว่ากัมพูชาใช้โดรนสอดแนม ก่อนส่งทหารพร้อมอาวุธหนักเข้าไปยังพื้นที่หนึ่งใกล้ปราสาท จากนั้นทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ตามคำกล่าวอ้างของโฆษกกองทัพไทย

โกลบอลไทม์ส รายงานอ้างโฆษกกองทัพไทยระบุต่อว่า กัมพูชา ใช้อาวุธหลายชนิด ในนั้นรวมถึงเครื่องยิงจรวด อย่างไรก็ตามทางโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา อ้างว่ามันเป็นการรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุโดยทหารไทย และการตอบโต้ของกองกำลังกัมพูชาเป็นการป้องกันตนเอง

Zhang Junshe ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของไทย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวโกลบอลไทม์สในวันพฤหัสบดี(24ก.ค.) ว่าสถานการณ์ล่าสุดที่ไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 และกัมพูชาใช้ปืนใหญ่จรวด ย่งชี้ว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากำลังเลวร้ายลง ซึ่งเสี่ยงลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามจากทรรศนะด้านการทหาร ไทยกุมความได้เปรียบ เนื่องจากมีอาวุธที่ล้ำสมัยมากกว่า

ทั้งนี้ Zhang กล่าวว่าทั้งไทยและกัมพูชา ต่างเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน และสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายใดหรือทั้งภูมิภาค ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือการหาทางออกอย่างสันติผ่านการเจรจา

(ที่มา:โกลบอลไทม์ส)