กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันจันทร์ (21 ก.ค.) ว่า รัฐบาลจีนขัดขวางไม่ให้พนักงานสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (U.S. Patent and Trademark Office) ที่ไปเยือนจีนเป็นการส่วนตัวเดินทางออกนอกประเทศ
“เรากำลังติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด และกำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่จีนเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ
สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าเป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
ชื่อของเจ้าหน้าที่รายนี้ รวมถึงสถานะการถูกควบคุมตัว ยังไม่ได้รับการเปิดเผย ขณะที่สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ก็ยังไม่ออกมาให้ข้อมูลในประเด็นเหล่านี้
เมื่อวันอาทิตย์ (20) หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า มีพลเมืองสหรัฐฯ คนหนึ่งซึ่งทำงานให้กับกระทรวงพาณิชย์เดินทางไปจีนเมื่อหลายเดือนก่อนเพื่อไปเยี่ยมครอบครัว และถูกทางการจีนห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ หลังจากที่เขาไม่ได้ระบุในใบคำร้องขอวีซ่าว่าทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ
ปักกิ่งมักใช้มาตรการห้ามเดินทางออกนอกประเทศกับทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติในข้อพิพาททางแพ่ง การบังคับใช้กฎหมาย และการสอบสวนทางอาญา ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่ากลยุทธ์นี้บางครั้งก็ถูกใช้เพื่อปราบปรามพลเมืองจีนที่ต่อต้านรัฐ และยังถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการทูตในข้อพิพาทกับประเทศอื่นๆ อีกด้วย
วอชิงตันและปักกิ่งมีความขัดแย้งกันมานานหลายปีในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่ภาษีศุลกากรไปจนถึงต้นกำเนิดของโควิด-19 และปัญหาไต้หวัน
เฉินเยว่ เหมา (Chenyue Mao) ซึ่งเป็นนายธนาคารเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) ก็ถูกห้ามเดินทางออกจากจีนเช่นกัน โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาชี้แจงวานนี้ (21) ว่าเธอมีส่วนพัวพันในคดีอาญา และจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในการสอบสวน
เหมา ถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทต่างชาติหลายคนที่ถูกขัดขวางขณะพยายามเดินทางออกจากจีน
แหล่งข่าวที่เปิดเผยข้อมูลกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า เหมา เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ขณะที่ เวลส์ ฟาร์โก ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ก็ได้ห้ามพนักงานทุกคนเดินทางไปจีนหลังเกิดกรณีของ เหมา
ที่มา: รอยเตอร์