ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แถลงแผนส่งหนังสือแจ้งไปยังประเทศต่างๆอีกกว่า 150 ชาติ ว่าเร็วๆนี้พวกเขาจะเจอกับเพดานภาษีใหม่ ในอัตราระหว่าง 10% ถึง 15%
ทรัมป์ ยกเครื่องนโยบายการค้าของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม กำหนดมาตรการรีดภาษีอย่างกว้างขวางเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ
"วันแห่งการปลดปล่อย" ของเขาเมื่อวันที่ 2 เมษายน เปิดตัวมาตรการรีดภาษีอย่างครอบคลุม 10% สินค้านำเข้าทั้งหมด เช่นเดียวกับเพดานภาษีที่สูงขึ้นกว่านั้น สำหรับสินค้านำเข้าจากคู่หูการค้าสำคัญๆอย่าง จีน, เม็กซิโก, แคนาดาและอียู และเพิ่มเติมด้วยการขึ้นภาษีเหล็ก, อลูมีเนียมและยานยนต์นำเข้า ผลักให้เพดานภาษีโดยเฉลี่ยสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในวันพุธ(16ก.ค.) ทรัมป์ กล่าวว่า "เราจะมีอีกกว่า 150 ประเทศ ที่เรากำลังส่งหนังสือแจ้งเกี่ยวกับการจ่ายเงิน หนังสือแจ้งนี้จะระบุว่าอัตราเพดานภาษีอยู่ที่เท่าไหร่"
เขากล่าวต่อว่าอัตราเดียวกันนี้จะบังคับใช้กับทั่วทั้งกลุ่ม และเน้นว่าประเทศเกือบทั้งหมดนี้ "ไม่ใช่ชาติใหญ่" และไม่ได้ทำธุรกิจกับสหรัฐฯเท่าใดนัก
ต่อมาในช่วงเย็นวันพุธ(16ก.ค.) ทรัมป์ ให้ความชัดเจนระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Real America’s Voice ว่าอัตราภาษีจะอยู่ที่ราวๆ 10% ถึง 15% แต่ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ แถลงมาตรการรีดภาษีแบบก้าวร้าวหลายระลอก และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้ส่งเสียงข่มขู่เป็นชุดๆว่าเพดานภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม จนกว่าบรรดาคู่หูทางการค้าจะเจรจาปรับปรุงเงื่อนไขการค้ากับวอชิงตัน มีรายงานว่าหนังสือแจ้งที่ส่งออกไปยังประเทศต่างๆกว่า 150 ชาติ เป็นการขยายเส้นตายเดิมที่ขีดไว้ในวันที่ 9 กรกฏาคม ออกไปอีก 3 สัปดาห์
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)