เอเอฟพี/เอเจนซี – ซัดดัม ฮุสเซ็นและอดีตผู้บัญชาการในรัฐบาลของเขาทั้ง 6 คนกลับเข้าสู่การพิจารณาคดีในชั้นศาลที่กรุงแบกแดดวันนี้ (27) อีกครั้งเพื่อเผชิญข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ในปฏิบัติการทางทหารที่โจมตีและสังหารหมู่ชาวเคิร์ดในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 หลังจากพักการพิจารณาคดีนี้ไป 2 สัปดาห์
อดีตผู้นำอิรักขึ้นศาลครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้รับโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในคดีสังหารหมู่ชาวชีอะห์ 148 คนไปแล้วหนึ่งคดี ได้ขึ้นศาลอีกครั้งในวันนี้ (27) เพื่อรับฟังการพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเคิร์ดอีกครั้ง
และแม้ว่าทนายส่วนใหญ่ในทีมแก้ต่างให้จำเลยรวมทั้งหัวหน้าทนายของซัดดัม คอลิล อัลดูไลมีจะคว่ำบาตรกระบวนการพิจารณาคดีต่อไปโดยการไม่ขึ้นศาลเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีครั้งที่ 23 ในวันนี้ แต่ทนายบางคน เช่น ทนายบาดี อาเรฟและทนายจำเลยอีกคนก็ยอมมาปรากฏตัว
ทั้งนี้ อัยการกล่าวถึงปฏิบัติการอัลฟาลในปี 1988 โดยกองทัพอิรักในการบัญชาการของซัดดัม ได้ทำการกวาดล้างชาวเคิร์ดด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการโจมตีโดยใช้อาวุธเคมีทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ การทำลายที่อยู่อาศัย และการเนรเทศชาวเคิร์ดให้ออกนอกพื้นที่ เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการสังหารหมู่อันโหดเหี้ยมที่มีการประเมินว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 180,000 คน ทำให้ซัดดัมและจำเลยอีกหนึ่งคนต้องเผชิญกับข้อหาร้ายแรงในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนี้
นอกจากนี้ หัวหน้าอัยการ มุนกิธ อัลฟารูนกล่าวกับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์วานนี้ (26) ว่า เขาได้เทปบันทึกเสียงและเอกสารที่พิสูจน์ได้ว่าซัดดัมเป็นผู้สั่งการปล่อยก๊าซในหมู่บ้านทางเหนือของอิรักจริง