เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซี – เกิดเหตุระเบิดหลายระลอกในอิรักวันนี้ (1) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 52 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นทหารอิรักที่โดนระเบิดโจมตีขณะนั่งรถบัสไปปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่อีกอย่างน้อย 14 คน ต้องเสียชีวิตจากเหตุระเบิดพลีชีพตามเมืองต่างๆ ใกล้กรุงแบกแดด คาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตยังจะเพิ่มขึ้นอีก
เหตุระเบิดที่รุนแรงที่สุดเป็นการระเบิดโจมตีรถบัสที่บรรทุกทหารเต็มคัน ขณะกำลังเดินทางจากกรุงติกริตไปยังกรุงไบจิ ตอนเหนือของกรุงแบกแดด ทั้งนี้ มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และอีก 13 คน ได้รับบาดเจ็บ
ยิ่งไปกว่านั้น การระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุระเบิดพลีชีพในกรุงการ์ระเดาะห์ ใกล้กรุงแบกแดด ซึ่งมีเป้าหมายเป็นตำรวจและทหารที่กำลังไปรับเงินเดือนจากธนาคารช่วงต้นเดือน ทำให้มีทหารอย่างน้อย 14 คน และผู้ไม่เกี่ยวข้องอีก 4 คน เสียชีวิต รวมถึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 37 คนด้วย
นอกจากนี้ ยังมีตำรวจอีก 1 นาย และพลเมืองอีก 6 คน เสียชีวิตในกรุงมุกมะดิเยาะห์จากเหตุระเบิดพลีชีพ ซึ่งมีเป้าหมายเป็นตำรวจลาดตระเวน และยังมีกบฏอีก 2 คน เสียชีวิตในกรุงการ์มา เพราะระเบิดที่ตัวเองวางไว้ระเบิดก่อนเวลา รวมถึงระเบิดที่จ้องจะเล่นงานรัฐมนตรีกระทรวงไฟฟ้าแต่พลาดทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 1 คน ทางตะวันออกของกรุงแบกแดดด้วย
ด้าน นายกรัฐมนตรี นูริ อัลมาลิกิ ของอิรัก ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าเขาสามารถยุติการสังหารผู้คน หรือแม้แต่ผ่อนคลายความรุนแรงของความขัดแย้งระหว่างชาวมุสลิมต่างนิกาย ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองได้ แม้จะให้สัตยาบันเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ เขายังเสนอแผนไกล่เกลี่ย 24 จุด ซึ่งมีคำมั่นสัญญายาวแต่มีรายละเอียดสั้น และยังกำหนดให้มีการปราบปรามเพื่อความมั่นคงอย่างรุนแรงในกรุงแบกแดด จึงยิ่งทำให้การบรรเทาการนองเลือดนั้นล้มเหลว